MGR Online - ยามมีความสุขไม่เคยนึกถึง แต่เวลามีปัญหากลับมาเรียก ชาวบ้านสุดทน โทร.แจ้งตำรวจผัวเมียทะเลาะกัน เหตุระเเวงกลัวมีชายอื่นติดพัน หึงถึงขั้นสั่งให้เลิกขายก๋วยเตี๋ยว ไม่ไว้ใจสงสัยจะเจอลูกค้าหลายคน ไม่พอดันพาลไปฟาดรถแท็กซี่ใกล้ๆ
วันนี้ (6 ส.ค.) เวลา 18.30 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้รับรายงานว่า พ.ต.ท.ปรเมศว์ เมฆสั้น รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน พร้อมด้วย พ.ต.ท.จารุกิตติ์พัฒน์ สุขยิ่ง สว.สส.สน.บางขุนเทียน และ พ.ต.ท.ภราดร เชิดชูล้ำตระกูล สว.สส.สน.บางขุนเทียน จับกุม นายสุพล หรือ แหล่ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี อาชีพขับรถ จยย.รับจ้างวินตลาดบางบอน พร้อมของกลาง ปืนปากกา ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุน 34 นัด ได้ภายในห้องพักเลขที่ 301 หอพักร่มไม้ริมคลอง ตึก 3 แขวงเเสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากมีชาวบ้านโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สน.บางขุนเทียน เข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาทระหว่าง นายสุพล กับ น.ส.สวย (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ภรรยานอกสมรส บริเวณหน้าหอพักดังกล่าว โดยเบาะแสที่ได้รับเชื่อว่า นายสุพล มีอาวุธปืนไว้ความครอบครอง กระทั่งชุดสืบสวนไปตรวจสอบพบ นายสุพล อยู่ในอาการเมาสุราอย่างหนัก กำลังถกเถียงกับภรรยาเรื่องระแวงว่าจะถูกนอกใจ จึงทำการเข้าแยกย้ายและพูดคุยจน นายสุพล ยอมรับว่าฝังปืนปากกา ขนาด .38 ไว้ใต้ต้นมะขามข้างห้องพัก และมีกระสุนปืนซุกอยู่ในห้องพักอีก 34 นัด จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางสอบสวนที่ สน.บางขุนเทียน
จากการสอบสวน นายสุพล ให้การรับสารภาพว่า ตนคบหากับ น.ส.สวย มานานกว่า 20 ปี มีบุตรด้วยกัน 3 คน ก่อนหน้านี้ เคยเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวให้ แต่ระแคะระคายว่าจะมีผู้ชายมาติดพัน จึงให้เลิกขายแล้วไปทำงานโรงงาน ซอยเอกชัย 64 ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นวันนี้ ตนดื่มเบียร์จนเมาและขับรถ จยย.ไปรับ น.ส.สวย กลับห้องพัก ระหว่างทางก็ทะเลาะกันเรื่องระเเวงว่าจะมีผู้ชายมาติดพัน ด้วยความโมโหจึงหยิบขวดเบียร์ฟาดกระจกรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ในซอยใกล้ๆ โรงงาน แล้วมุ่งหน้ากลับห้องพักมาทะเลาะกันต่อ จนมีชาวบ้านแจ้งตำรวจจับ อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับผิดชอบทุกอย่างโดยเฉพาะเรื่องค่าเสียหายรถแท็กซี่ ส่วนปืนปากกาซื้อจากเพื่อนที่ทำงานโรงกลึงในต่างจังหวัด ตนเก็บไว้ป้องกันตัวนานมากแล้ว
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ส่วนเรื่องค่าเสียหายรถแท็กซี่ ได้ประสานให้ผู้เสียหายติดต่อบริษัทประกันภัยรถยนต์ มาเจรจาเรื่องค่าสินไหมกับญาติๆ ต่อไป
