ตร.ล่าหนุ่มใหญ่ขับรถกระบะเวียนก่อเหตุวิตถารซ้ำหลายครั้งข้างโรงเรียนสตรีดังเมืองนนท์ พยานเผยล่าสุดหลอกเด็กสาวอ้างรถเสียให้ช่วยจับพวงมาลัยรถ เหยื่อเผลอล้วงใต้กระโปรง โชคดีหนีได้ทัน
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 63 รอง ผอ.โรงเรียนสตรีนนทบุรี พร้อมด้วย น.ส.น้อย (นามสมมติ) ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ถิรพัฒน์ ศิริรักษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีต่อชายอายุประมาณ 30-35 ปี คนขับรถกระบะที่ขับรถมาจอดบริเวณปากทางเข้าซอยพิบูลสงคราม 1 ใต้สะพานลอยคนข้าม หลอกว่ารถเสียก่อนจะให้ น.ส.น้อยเข้าไปภายในรถช่วยจับพวงมาลัย ชายคนดังกล่าวได้ให้ น.ส.น้อยยืนขึ้น จากนั้นได้เอามือล้วงเข้าไปใต้กระโปรง น.ส.น้อยตกใจรีบหยิบกระเป๋าวิ่งหนีออกมาจากรถ ต่อมาได้แจ้งให้ทางอาจารย์ที่โรงเรียนทราบ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะมาก่อเหตุซ้ำ เหตุเกิดวันที่ 30 มิ.ย. 63 เวลา 06.00 น. กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพรถคันที่ก่อเหตุกับภาพคนร้ายไว้ได้
ล่าสุด วันนี้ (2 ก.ค. 63) เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ภายในโรงเรียนเพื่อติดตามความคืบหน้า พบ ดร.ชเนตตี วัจนะรัตน์ ผอ.ร.ร.สตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียน ได้มีเด็กนักเรียนวิ่งเข้ามาแจ้งครูว่าบริเวณป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนมีชายขับรถกระบะสีดำอ้างว่ารถเสีย ให้เด็กนักเรียนไปช่วยขึ้นไปนั่งประคองที่พวงมาลัยรถ ปกติเด็กนักเรียนคนดังกล่าวเป็นคนที่มีจิตอาสาอยู่แล้วจึงไม่ได้คิดอะไร และเข้าไปช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ แต่ด้วยความฉลาดและความมีไหวพริบของตัวเด็กเอง ในระหว่างที่ขึ้นไปนั่งบนรถกระบะ เด็กก็ได้ระวังตัวเองตลอดเวลา โดยเอากระเป๋านักเรียนวางคั่นไว้ที่ประตูซึ่งจะทำให้ประตูไม่สามารถปิดสนิทได้ พอเวลาผ่านไปประมาณ 4-5 นาที เด็กเริ่มเห็นท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งลงจากรถแล้วไปแจ้งให้ครูในโรงเรียนทราบ
หลังจากเกิดเหตุคนขับรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้มีมาตรการป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะนี้มาโดยตลอดอยู่แล้วเพราะเป็นโรงเรียนหญิงล้วน ทางโรงเรียนมี รปภ.ขององค์การทหารผ่านศึกยืนเข้าเวรยามตามประตูเข้าออกทุกประตูตลอด 24 ชั่วโมง โดยช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 06.00-08.30 น.จะมีคุณครูมายืนเข้าเวรอยู่ที่หน้าโรงเรียน และช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 14.30 น.เป็นต้นไปก็จะมีคุณครูและเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีกล้องวงจรปิดติดตั้งโดยรอบโรงเรียนอีกด้วย หลังจากนี้จะกำชับให้เด็กนักเรียนทุกคนระวังตัวเองให้มากกว่านี้ แต่ถึงแม้ว่ามาตรการจะรัดกุมเพียงไหนก็ตามเหตุการณ์แบบนี้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว และนี่อาจจะเป็นตัวอย่างที่ว่า การที่เรามีจิตอาสาและความคิดที่จะช่วยเหลือผู้อื่นอาจจะนำภัยมาสู่ตนเองได้
ขณะที่พยานซึ่งเป็นครู รปภ. และพ่อค้าแม่ขายของหน้าโรงเรียน ต่างยืนยันว่ารถกระบะคันดังกล่าวเคยขับมาจอดริมกำแพงข้างโรงเรียนฝั่งประตูทางออกแล้วก่อเหตุด้วยการควักอวัยวะเพศออกมาโชว์นักเรียนสาวมาแล้ว ไม่คิดว่าจะกล้ากลับมากระทำการแบบนี้อีก ส่วนทางด้านคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดรถกระบะคันดังกล่าวคาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆ วันนี้