“เบนซ์ เรซซิ่ง” รายงานตัวศาลอาญา ระหว่างประกันตัวชั้นอุทธรณ์คดีฟอกเงินยาเสพติด หลังศาลอนุญาตให้ปลดกำไลข้อเท้า เผยนัดรายงานตัว 24 มิ.ย.แต่จำวันผิดเป้น 25 มิ.ย. ซ้ำมาเกิดเรื่องฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินก่อน ลุ้นศาลเพิกถอนประกันหรือไม่ เจ้าตัวย้ำคดีเมื่อวานไม่ได้มั่วสุม แค่นัดกินหมูกระทะและเจออุบัติเหตุระหว่างทาง เลยจอดช่วยเหลือ
ล่าสุดถูกศาลเพิกถอนประกันและจะคุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง อดีตสามีแพท-ณปภา ตันตระกูล นักแสดงและพิธีกรสาวชื่อดัง ได้เดินทางมารายงานตัว ตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว ในคดีระหว่างอุทธรณ์คดี ในคดีที่นายอัครกิตติ์เป็นจำเลย ฐานฟอกเงินที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 8 ปี โดยตีราคาหลักทรัพย์ประกันตัว 1 ล้านบาท
นายอัครกิตติ์ หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง เปิดเผยว่า วันนี้มารายงานตัวต่อศาล เกี่ยวข้องกับการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีฟอกเงินระหว่างการอุทธรณ์ ตอนแรกศาลให้ใส่กำไลข้อเท้าหรืออุปกรณ์ EM ที่ผ่านได้ดำเนินการตามคำสั่งศาลด้วยดีมาตลอด และใส่กำไลข้อเท้าได้ประมาณกว่า 1 ปี แต่ด้วยเหตุจำเป็นหลายประการ รวมทั้งเรื่องที่มีคนจำนวนมากต้องการใช้กำไลข้อเท้าแทนการคุมขัง แต่มีไม่เพียงพอ อีกทั้งศาลเห็นว่าตนปฏิบัติตัวดีไม่มีพฤติการณ์หลบหนี รวมถึงหลักทรัพย์ประกันตัวมีมูลค่าสูงกว่าที่ศาลตีหลักประกันไว้ ปลายปี 2562 ศาลจึงอนุญาตให้ปลดกำไลข้อเท้า แต่ต้องมารายงานตัวทุก 2 เดือนแทน โดยความจริงตนต้องมารายงานตัววันที่ 24 มิ.ย. แต่จำวันผิดเป็นวันที่ 25 มิ.ย. แต่มาเกิดเรื่องถูกดำเนินคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเสียก่อน จึงประสานทนายความมายื่นคำร้องขอรายงานตัวในวันนี้ โดยอ้างเหตุจำเป็นดังกล่าว ทั้งนี้อยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งศาลว่าจะเพิกถอนประกันหรือไม่
นายอัครกิตติ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีเมื่อวานหลังจากเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ตนและพวกให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ให้ปากคำเป็นที่เรียบร้อยและพวกตนทุกคนให้การปฏิเสธโดยเฉพาะเรื่องการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขอใช้สิทธิ์ไปต่อสู้ในชั้นศาล ส่วนตัวตนคิดว่าพฤติการณ์ของพวกตนไม่เข้าข่ายการกลับกลุ่มมั่วสุมในที่แออัด ข้อเท็จเรื่องเกิดขึ้น ตนกับน้องๆ ออกไปกินหมูกระทะ ทั้ง 6 คนไม่ได้ออกไปพร้อมกัน แต่กลับทางเดียวกันใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อแยกย้ายกลับบ้าน โดยระหว่างทางไปเจออุบัติเหตุ พวกตนจึงจอดให้การช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเคลียร์ทาง จากนั้นขอตรวจเช็คใบขับขี่ และเขียนใบสั่งตามปกติ แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่กล่าวหาว่าพวกตนฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จึงให้การปฏิเสธ พร้อมพิสูจน์ตนเองในชั้นศาล
ล่าสุดเวลา 16.00 น. ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายอัครกิตติ์จำเลยมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม ถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนิน คดี ข้อหา กระทำผิด พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.จราจร ฯ ถือว่าผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวของศาล จึงมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวจำเลย
ต่อมาเวลา 17.30 น. เจ้่าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวนายอัครกิตติ์ หรือเบ็นซ์ ไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในความผิดเดิมฐานฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
