xs
xsm
sm
md
lg

“บรรยิน” ปัดวางแผนแหกคุก! อ้างโดนลูกน้องใส่ร้ายคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา อยากผูกคอตายเพราะเครียด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“บรรยิน” แถลงต่อศาล ปฏิเสธอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา อ้างถูกจำเลยที่ 2-6 ในคดีเดียวกันให้ร้ายกลั่นแกล้ง พร้อมปฏิเสธไม่รู้เรื่องวางแผนแหกคุก ระบุถูกพันธนาการในคุกจนเครียดอยากผูกคอตาย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (22 มิ.ย.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีอุ้มฆ่าพี่ชายของผู้พิพากษา หมายเลขดำที่ อท.69/2563 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ กับพวกรวม 6 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ และข้อหาอื่นๆ

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ได้เบิกตัว พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 1 จากเรือนจำบางขวางมาศาล เวลาประมาณ 08.10 น. โดยมีตำรวจชุดหนุมานกองปราบปรามขับรถนำขบวนคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน มีรถยนต์หลายคันคอยคุ้มกันปิดท้ายอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากมีข่าวว่าจำเลยวางแผนแหกคุกหรือชิงตัวประกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับการตรวจพยานหลักฐานในวันนี้ศาลได้นัดพิจารณาเฉพาะส่วนของนายบรรยิน จำเลยที่ 1 เพียงคนเดียว ซึ่งศาลได้จัดถ่ายทอดผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ให้ผู้สื่อข่าวได้ฟังการพิจารณาวันนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพ

ต่อมาเวลา 10.35 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุม พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 1 เข้ามายังห้องพิจารณาคดี ซึ่งพ.ต.ท.บรรยินอยู่ในชุดผู้ต้องขังติดตรวนข้อเท้า และมีหน้ากากอนามัย โดยมีท่าทีปกติ ก่อนนั่งปรึกษากับทีมทนายความ 3 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าพนักงานตำรวจศาลนั่งกระจายรอบห้องพิจารณา

จากนั้นเวลาประมาณ 10.45 น. ศาลจึงเริ่มกระบวนพิจารณา โดยโจทก์ได้ยื่นพยานหลักฐาน และ น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาน้องสาวผู้ตายในฐานะผู้เสียหาย ยื่นขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมอ้างว่าเป็นผู้เสียหายที่ถูกจำเลยที่ 1 กับพวกกระทำความผิดฐานร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป และฐานร่วมกันพยายามข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพของผู้อื่น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ศาลสอบโจทก์แล้วแถลงว่า น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานดังกล่าว ไม่คัดค้าน พิเคราะห์แล้วจึงอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์เฉพาะความผิดฐานร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่และร่วมกันพยายามข่มขืนใจผู้อื่นฯ ตาม ป.อาญา มาตรา 139, 140, วรรคแรก และมาตรา 309 วรรคสอง ประกอบมาตรา 80, 83 ส่วนฝ่ายจำเลยยื่นขอเลื่อนตรวจหลักฐานโดยอ้างว่ายังอ่านเอกสารพยานหลักฐานไม่แล้วเสร็จ โดย พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 1 แถลงต่อศาลยืนยันให้การปฏิเสธระบุว่าถูกจำเลยที่ 2-6 ให้ร้ายกลั่นแกล้ง ในวันเกิดเหตุตนเองไม่อยู่ในเหตุการณ์ และขอปรึกษาภรรยาและลูกสาว

นอกจากนี้ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 1 ยังแถลงว่าตนอยู่ในเรือนจำไม่มีที่เก็บเอกสาร ไม่ได้อ่านสำนวนคดี ถูกจับขังเดี่ยว ถูกใส่ตรวนข้อเท้าตลอดเวลา ปฏิบัติเยี่ยงสัตว์ ไม่มีโอกาสดูเอกสารของโจทก์ทั้ง 10 แฟ้ม จะให้ทนายความดูเอกสารให้ ตนก็จะเสียเปรียบ เพราะทนายไม่ได้ไปอุ้มกับตนด้วย รวมทั้งหลักฐานที่เป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ต้องใช้เครื่องมือตรวจสอบ ถ้าได้ประกันตัวตนรับได้เนื่องจากตนต้องไปสืบพยานที่ศาลอาญาพระโขนงทุกสัปดาห์ ต้องเตรียมต่อสู้คดีนั้นจนไม่ได้มาสนใจคดีนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีข่าวเรื่องจะแหกคุกซึ่งตนไม่รู้เรื่อง ตนอยู่ในเรือนจำถูกพันธนาการตลอดจนเครียดมากถึงขั้นผูกคอตาย และทนายที่ดูคดีนี้ไม่ได้เดินทางมาในวันนี้ด้วย

ต่อมาศาลชี้แจงว่า ศาลใช้ระบบไต่สวนสามารถซักถามพยานได้ และแจ้งว่าการพิจารณาครั้งนี้เป็นความลับเพื่อรักษาความปลอดภัย รวมทั้งความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาล จึงไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องทั้งภรรยาและลูกสาวของจำเลยด้วย แม้ว่าจะเป็นผู้ช่วยทนายความก็ตาม หากจะปรึกษากับภรรยาและลูกสาว เป็นเรื่องทางเรือนจำจะจัดการแต่สามารถนั่งฟังในห้องที่ถ่ายทอดภาพและเสียงที่ศาลจัดไว้ให้ได้

ภายหลังศาลพิจารณาแล้วจึงอนุญาตให้จำเลยทุกคนยื่นคำแถลงโต้แย้งพยานหลักฐานและแนวทางเสนอพยานหลักฐานภายใน 60 วัน และนัดตรวจหลักฐานจำเลยที่ 2-6 ตามที่กำหนดไว้เดิมวันที่ 25 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.

ด้านนายบัญชา ชัยจำ ทนายความของ พ.ต.ท.บรรยิน ตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีมีข่าว พ.ต.ท.บรรยินจะหลบหนีออกจากเรือนจำโดยมีทนายความประกันตัวผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเพื่อให้ไปตระเตรียมการว่า ตนไม่ทราบว่าทนายดังกล่าวเป็นใคร เเต่ไม่ใช่ตน เพราะตนดูเเลคดี พ.ต.ท.บรรยินเเเต่เพียงเฉพาะของเสี่ยชูวงษ์ที่ศาลพระโขนง เเละไม่รู้จักทนายคนดังกล่าวว่าชื่ออะไร

เมื่อถามย้ำว่ารู้จักทนายความคนดังกล่าว ที่ถูกอ้างว่าประกันตัวนักโทษช่วยหลบหนีหรือไม่ เเละใครเป็นทนายความดูเเลคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา

นายบัญชากล่าวว่า ไม่รู้จักทนายความที่ถูกอ้างว่าไปประกันตัวผู้ต้องขัง ส่วนทนายความที่ดูเเลคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษานั้น ตนไม่รู้จักชื่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น