สืบนครบาลตามจับหนุ่มอุดรฯ หลอกพระวัดดังเมืองปทุมฯ ให้เป็นสปอนเซอร์พาญาติโยมไปแสวงบุญที่เมืองมัณฑะเลย์ เสียหายรวมกว่า 2 ล้านบาท ก่อนหลบหนีไปกบดานบ้านเกิด ผู้ต้องหาสารภาพติดการพนันออนไลน์ เล่นพนันครั้งละร่วมแสนบาท จนเงินหมด
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. และ พ.ต.ท.สมคิด ประเชิญสุข, พ.ต.ท.กัลป์ กลิ่นศรี รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.มนเทียน ปิ่นทัศน์ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.โชคดี อินทรลักษณ์ ร.ต.อ.สุไพสิทธิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. และ ส.ต.อ.ศิริพจน์ หนองคำหาร ผบ.หมู่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. จับกุมตัว นายเอกพล วงศ์วรพล อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 442/2561 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2561 ข้อหา “ฉ้อโกง” สามารถจับกุมได้ภายในบริเวณหน้าดวงแก้วอพาร์ตเมนต์ เลขที่ 108/88 ม.13 ซอยสมิตะโยธิน 3 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือน ธ.ค. 2560 นายเอกพล ซึ่งเคยอุปสมบทที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี หลังจากสึกแล้ว นายเอกพล ได้เข้าทำงานที่วัดดังกล่าว ทำหน้าที่เป็นจิตอาสาผู้ช่วยพระสงฆ์ และทำงานเกี่ยวกับธุรการ คอมพิวเตอร์ รวมถึง ขับรถรับส่งพระสงฆ์เวลาเดินทางไปประกอบกิจนิมนต์ ได้ค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท ด้วยความเป็นคนอัธยาศัยดี มนุษยสัมพันธ์ดี ทำให้พระชั้นผู้ใหญ่ในวัดไว้ใจ
ต่อมา นายเอกพล ได้อ้างกับพระชั้นผู้ใหญ่ในวัดรูปหนึ่ง ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับศิลปินทอล์กโชว์ชื่อดัง โดยศิลปินดังกล่าวได้ปรึกษาตนว่าจะพาญาติโยมไปแสวงบุญที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา หากจ่ายมัดจำโปรแกรมทัวร์ จะได้ราคาถูก จึงอยากให้พระสงฆ์เป็นสปอนเซอร์ให้ นอกจากนี้ นายเอกพล ยังใช้อุบายโดยการไปซื้อซิมโทรศัพท์ใหม่ แล้วโทร.ไปหาพระอ้างว่าจะขอตัวนายเอกพลไปช่วยดูแลญาติโยมที่ไปแสวงบุญที่ประเทศเมียนมา อีกทั้ง นายเอกพล ได้นำภาพที่ถ่ายคู่กับศิลปินคนดังกล่าว ซึ่งเป็นลูกศิษย์วัดดังกล่าวมาแสดงให้ดู ทำให้พระหลงเชื่อว่า ถ้าศิลปินคนนี้พาญาติโยมไปแสวงบุญก็จะมีสปอนเซอร์รายอื่นๆ เข้ามาช่วยออกทุนด้วย จึงโอนเงินให้เบื้องต้น 5 แสนบาท
จากนั้น เมื่อถึงช่วงใกล้ไปแสวงบุญตามที่กล่าวอ้าง ได้มีญาติโยมที่มีจิตศรัทธาต้องการทำบุญ ประมาณ 120 ราย โอนเงินให้นายเอกพล รวมกว่า 2 ล้านบาท แต่เมื่อถึงวันไปแสวงบุญ วันที่ 19-21 ม.ค. 61 พระและญาติโยมไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อนายเอกพลได้ โทร.หาได้แต่ผ่านไลน์ โดยนายเอกพลอ้างว่าอยู่ต่างประเทศ เมื่อถึงกำหนดกลับ นายเอกพล อ้างว่า ศิลปินขอแสวงบุญต่อ เวลาผ่านไป 1 เดือน พระสังเกตว่านานผิดปกติ เกรงว่า ชาวบ้านจะแจ้งความจับพระเอง จึงออกเงินค่าตั๋วเครื่องบินให้ญาติโยมทั้ง 120 คน ไปประเทศเมียนมา เพื่อดูว่ามีการแสวงบุญจริงหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มี พระจึงคืนเงินให้ญาติโยมทั้งหมดรวม 2 ล้านบาท แล้วแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอกพลไว้ที่ สภ.คลองหลวง
จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.3 บก.สส.บช.น. สืบทราบว่า นายเอกพล หลบหนีไปกบดานที่ จ.อุดรธานี อาศัยกับหญิงสาวแล้วหลบหนีคดีโดยย้ายที่พักเรื่อยๆ จนถูกจับกุม
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองอยากได้เงินไปตั้งตัวที่บ้านสัก 1 ก้อน อีกทั้งยังติดการพนันออนไลน์ ทั้งบอล รักบี้ มวย ครั้งละร่วมแสนบาท จนเงินหมด จึงหนีกลับไปอยู่บ้าน ส่วนที่หลอกว่าอยู่ต่างประเทศนั้น จริงๆ อาศัยอยู่อพาร์ตเมนต์ ใน จ.ปทุมธานี จะไม่ออกไปไหน ออกเฉพาะกลางคืน เพราะกลัวคนเห็น
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่า มีหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงที่ ส.511/2556 ลงวันที่ 26 กันยายน 2556 ข้อหา “ยักยอก” และศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 150/2556 ลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2556 ข้อหา “ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ ที่เป็นทรัพย์ของนายจ้าง หรือรับของโจร, ยักยอกทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสารสิทธิ หรือตั๋วแลกเงิน หรือใช้เอกสารสิทธิ หรือตั๋วแลกเงินปลอม เบื้องต้น นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
