“สุเทพ” อดีตเลขาฯ กปปส.เผย “หม่อมเต่า” ลาออกจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย เพราะอายุมากแล้วมีความคิดเป็นของตัวเอง คงอึดอัดใจที่ต้องทำงานกับคนหมู่มาก แต่ไม่ได้ขัดแย้งหรือไม่ลงรอยกัน
วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เดินทางมาศาลตามนัดสืบพยานจำเลยคดีกบฏ กปปส. ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรค รปช. ว่าเมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง รักษาการหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค รปช. แถลงชัดเจนว่าการลาออกเป็นเหตุผลของ ม.ร.ว.จัตุมงคล ไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งนั้น ท่านตัดสินใจของท่านเอง ลาออกจากสมาชิกพรรคด้วย หลังจากนี้ก็เป็นเรื่องของกระบวนการตามกฎระเบียบของพรรค ที่จะประชุมใหญ่และเลือกกรรมการบริหารพรรคต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี ม.ร.ว.จัตุมงคล พูดทำนองเหมือนไม่สามารถทำตามคอนโทรลได้ มีนัยอะไรหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ธรรมดาคนเราอายุกว่า 75-76 ปี มีความคิดเป็นของตัวเอง เมื่อมาทำงานกับคนหมู่มากในระบบพรรคก็อาจจะอึดอัดบ้าง แต่พรรค รปช.เป็นพรรคของประชาชน เราพยายามที่จะให้เป็นพรรคของประชาชนที่สมบูรณ์แบบ ฉะนั้นเวลาเราส่งคนไปเป็นรัฐมนตรีที่กระทรวง พรรคก็จะมอบนโยบาย มอบแนวทางซึ่งมาจากการปรึกษาหารือกับประชาชนฝ่ายต่างๆ สิ่งที่เสนอไปคือเรื่องของการแก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติและประชาชน
เมื่อถามว่าเป็นเรื่องความขัดแย้ง หรือไม่ลงรอยในการทำงานหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อย่าไปพูดว่าเป็นความขัดแย้ง ไม่ลงรอย แต่ท่านอาจจะรู้สึกอึดอัดใจ ก็เห็นใจท่าน
“จริงๆ ผมก็เจอท่านบ่อยพอสมควรนะ แต่ว่าส่วนใหญ่ก็จะเจอกันในที่ประชุม แล้วก็โตๆ กันแล้ว ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากมาย” นายสุเทพตอบคำถามผู้สื่อข่าว
นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังกล่าวถึง คดีการชุมนุมของกปปส. เมื่อปี 2556-57 ว่า เราต่อสู้คดีในชั้นศาลมา1 ปีกว่าแล้ว ภายในเดือนหน้าก็จะสืบพยานโจทก์-จำเลยเสร็จหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะพิพากษาอย่างไร เราก็ยอมรับทุกอย่างซึ่งจำเลยมีพวกตนที่เป็นแกนนำ 9 คน และมีผู้ชุมนุมที่ติดร่างแหไปด้วยอีก 30 คนรวมจำเลยทั้งหมด 39 คน วันนี้ก็คาดว่านายถาวร เสนเนียม , นายเอกณัฐพร้อมพันธุ์ , นายสุริยะใส กตะศิลา ก็จะมาเบิกความต่อศาล
“ถือว่าเราได้กระทำการช่วยชาติ ช่วยแผ่นดินโดยสุจริตใจ เมื่อตอนที่จะออกมาชุมนุมเดินขบวนเราก็รู้อยู่แล้วว่าอาจจะต้องถูกดำเนินคดีในหลายคดี รู้อยู่แล้วว่าจะต้องถูกปองร้ายคนเดินขบวนกับเราเสียชีวิตไปตั้ง 24 คน บาดเจ็บ 800 กว่าคน เราก็รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นผู้เสียสละ ที่พวกเราถูกดำเนินคดีก็เป็นเรื่องที่คาดคิดไว้ก่อนแล้วพร้อมที่จะต้องสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรยืนยันว่าไม่ได้เรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรม กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย” นายสุเทพกล่าว