MGR Online - ลูกสาวร้องศูนย์คนหายตำรวจ ช่วยตามหามารดาวัย 54 ปี ป่วยจิตเภทหายลึกลับนานกว่า 6 ปี หวังยังมีชีวิต หลังออกตามหาเองทั่วประเทศ
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มูลนิธิกระจกเงา ได้พา น.ส.วรรณกา อาสนา อายุ 28 ปี เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ตไตรงค์ ผิวพรรณ ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร (ผบก.ทว.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศูนย์คนหายตำรวจ) และ พ.ต.อ.วาที อัศวุตมางกุร รองโฆษก สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อให้ช่วยติดตามมารดาของตน คือ นางแพรพรรณ อาสนา อายุ 54 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคจิตเภท ต้องรับประทานยาจิตเวชอย่างต่อเนื่อง ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ระหว่างเดินทางไปเยี่ยมญาติตามลำพังที่ จ.หนองคาย ตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. 2557 โดยวันที่นางแพรพรรณหายตัวไป ได้นัดหมายกับบุตรสาว เพื่อเดินทางไปรับกลับบ้านที่ กทม. แต่นางแพรพรรณได้หายตัวไปเสียก่อน
น.ส.วรรณกร เปิดเผยว่า วันที่ 8 ส.ค. 2557 ตนกับบิดาทำงานอยู่ กทม.นัดหมายกับมารดา ว่า หลังเลิกงานจะขับรถไปรับมารดาที่ จ.หนองคาย แต่ปรากฏว่า ตลอดทั้งวันไม่สามารถติดต่อมารดาทางโทรศัพท์ได้ ทำให้รู้สึกกระวนกระวายใจ แต่คิดในแง่ดีว่า โทรศัพท์มารดาอาจแบตหมด กระทั่งเดินทางมาถึงบ้านญาติที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ในเช้าวันที่ 9 ส.ค. 2557 จึงทราบจากญาติว่ามารดาหายตัวไป โดยตนเองได้สืบข้อมูลจนพบว่า ช่วงเช้าวันที่ 8 ส.ค. 2557 มารดาได้เรียกรถสามล้อรับจ้าง คาดว่าให้ไปส่งที่บ้านญาติใน อ.เมืองหนองคาย แต่คนขับรถสามล้ออ้างว่า ไปส่งมารดาตนที่สถานีขนส่งหนองคาย ซึ่งตนสงสัยว่ามารดาจะไปทำอะไรที่นั่น ประกอบกับมารดาพกเงินสดติดตัวไปประมาณ 2 หมื่นบาท เกรงว่าอาจเกิดอันตรายระหว่างทาง
“หลังจากแม่หายตัวไปได้ 5 วัน มีผู้ใช้หมายเลขโทรศัพท์ของแม่ โทรศัพท์มาหา แต่อ้างว่าเก็บโทรศัพท์ที่ตกได้ และปลายสายอ้างว่าเป็นการโทร.ผิด ซึ่งตนข้องใจว่า บุคคลดังกล่าวมีการโทร.เข้าและรับสายหมายเลขโทรศัพท์ของแม่ได้อย่างไร ที่ผ่านมา พยายามตามหาแม่มาตลอด 6 ปี คอยตามข่าวการพบศพนิรนามในพื้นที่ ว่า เป็นแม่ของดิฉันหรือไม่ เคยแม้กระทั่งขอเปรียบเทียบดีเอ็นเอกับศพที่ลอยมาในแม่น้ำโขง ซึ่งผลดีเอ็นเอไม่ตรงกัน” น.ส.วรรณกร กล่าวและว่า จากข่าวพริตตี้ออยที่มีการสืบสวนติดตามจนพบว่าเป็นศพนิรนามนานกว่า 6 ปี ตนจึงกังวลว่า มารดาอาจเกิดเหตุร้ายในลักษณะนั้น แต่ยังหาศพไม่เจอหรือไม่ เพราะทราบว่า ศพนิรนามกระจายข้อมูลอยู่ทั่วประเทศ ลำพังตนเองคงไม่สามารถไปติดตามข้อมูลได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ใจนึงก็ยังหวังว่ามารดาอาจยังมีชีวิตอยู่ แต่ด้วยอาการป่วยจิตเภท อาจเดินเร่ร่อนหรือไปพักอาศัยที่ใด กลายเป็นบุคคลเร่ร่อนนิรนามก็ได้
น.ส.วรรณกร กล่าวด้วยว่า วันนี้ ตนเองมายื่นหนังสือ อยากให้มีการประสาน สั่งการ และลงพื้นที่สอบสวนปมสงสัยในวันเกิดเหตุ ว่า มารดาของตนเองหายไปได้อย่างไรกันแน่ โดยตนจะพยายามตามหาแม่จนกว่าจะพบ
พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า จากนี้ก็จะประสานงานไปกับพื้นที่ จ.หนองคาย ขอตรวจสอบสำนวน ว่า มีการดำเนินการไปถึงไหนแล้ว เราคงจะต้องเริ่มต้นทำการตรวจสอบจุดเริ่มต้นตั้งแต่ที่หายไปและไปขึ้นรถสามล้อ ที่เป็นจุดสุดท้าย ส่วนเรื่องการตรวจสอบทางโทรศัพท์ ที่พบว่ามีคนใช้โทรศัพท์ของผู้ที่สูญหาย คือ เราก็ต้องตรวจสอบเมื่อว่าเวลาผ่านไปนาน แต่ทางเราก็จะดำเนินการให้ดีที่สุด และสุดความสามารถ และในเรื่องการตรวจสอบศพนิรนามตามที่ต่างๆ
ด้าน พ.ต.อ.วาที กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ของ น.ส.วรรณกร ไว้แล้ว โดยจะนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลศพนิรนามในฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
ด้าน นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า กรณีคนหายหลายรายที่ผ่านมา มีโอกาสเป็นศพนิรนามไม่ทราบชื่อ เพราะข้อมูลคนหายและข้อมูลคนตายไม่ได้ถูกนำมาตรวจเปรียบเทียบกัน จึงพบว่า มีคนหายหลายรายที่ญาติตามหา แต่เข้าไม่ถึงข้อมูลศพนิรนาม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ คดีพริตตี้ออย ที่เสียชีวิตกลายเป็นศพนิรนามนานกว่า 6 ปี ถึงจะรู้ว่าเป็นใคร ทั้งที่ครอบครัวและเพื่อนไปแจ้งความคนหายและติดตามหามาตลอด แต่ข้อมูลเหล่านี้ไม่มีการเชื่อมโยงกัน และประชาชนเข้าไม่ถึงฐานข้อมูล เพราะข้อมูลศพนิรนามกระจัดกระจายอยู่ตามแผนกนิติเวช โรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศไม่มีการรวมฐานข้อมูลเดียวกัน ปัญหาศพนิรนาม จึงเป็นวาระที่ต้องสังคายนากันครั้งใหญ่
