ศาลสั่งจำคุก 5 ปี เสี่ยนำเข้ารถหรู “เบนท์ลีย์” เลี่ยงภาษีเกือบ 2 ล้านบาท ก่อนให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดี
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีเลี่ยงภาษีรถยนต์หรู หมายเลขดำ อ.2952/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายพันวศิน วิไลแก้ว, บริษัท เอส.พี.โพรเกรสซีฟ บิสิเนส จำกัด โดย น.ส.สิริพรรณ ชั้นเสวิกุล ผู้แทน, นายลอราช สุเวชวนิช และ บริษัท กู๊ดเกรย์ จำกัด โดย นายเรืองฤทธิ์ เร่งเพียร ผู้แทน ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันนำหรือพาของที่มิได้ผ่านศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้นๆ, ปลอมเอกสารสิทธิใบขนส่งสินค้า
อัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2561 ระบุพฤติการณ์ความผิดว่า เมื่อระหว่างวันที่ 20 ต.ค. 2553 - 19 มิ.ย. 2556 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันลักลอบนำรถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ รุ่นคอนติเนนตัล จีที สปีด ปี ค.ศ. 2009 ที่ได้ประกอบเป็นรถยนต์สำเร็จรูปแล้ว 1 คัน ราคา 2,184,840 บาท ซึ่งยังไม่ได้เสียภาษีอากรขาเข้า จำนวน 1,747,872 บาท รวมราคารถและค่าภาษีอากรเป็นเงินจำนวน 3,932,713 บาท เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง และร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งทรัพย์ดังกล่าว นอกจากนี้ นายพันวศิน จำเลยที่ 1 ได้ปลอมเอกสารสิทธิใบขนส่งสินค้าขาเข้า พร้อมแบบแสดงรายการภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ตามใบขนส่งสินค้าขาเข้าเลขที่ A 0220531207972 อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
เหตุเกิดที่ ต.สุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27, 27 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264, 266, 268 จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานต่างๆ ในคดีแล้ว มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ข้อต่อสู้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น จำเลยทั้งสี่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 วรรคแรก (ใหม่), 246 วรรคสอง (ใหม่) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของพวกจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ฐานนำของที่ผ่านเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้นๆ ซึ่งเป็นกฎหมายบทหนักสุด ลงโทษปรับจำเลยทั้งสี่คนละ 1,747,872 บาท นอกจากนี้ นายพันวศิน จำเลยที่ 1 ยังมีความผิดหลายกรรมต่างกัน ฐานปลอมและใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ ให้ลงโทษฐานใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 4 ปี ฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม จำคุก 1 ปี รวมเป็นจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 ลงโทษฐานใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอม ปรับ 1 แสนบาท ริบรถยนต์เบนท์ลีย์ เลขทะเบียน ญล5915 กรุงเทพมหานคร ส่วนข้อหาอื่นให้ยก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สรุป นายพันวศิน จำเลยที่ 1 ศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี ปรับ 1,747,872 บาท, บริษัท เอส.พี.โพรเกรสซีฟ บิสิเนส จำกัด จำเลยที่ 2 รวมปรับ 1,847,872 บาท, นายลอราช สุเวชวนิช และบริษัท กู๊ดเกรย์ จำกัด จำเลยที่ 3-4 คงปรับ 1,747,872 บาท
ภายหลังญาติของ นายพันวศิน จำเลยที่ 1 และ นายลอราช จำเลยที่ 3 ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ศาลอนุญาตให้ประกันตัว โดยศาลตีราคาประกันนายพันวศิน 5 แสนบาท ส่วน นายลอราช 4 แสนบาท