“ครม.” อนุมัติเลื่อนขึ้นภาษียาสูบและยาเส้น 40% จาก 1 ต.ค.63 ไปเป็น 1 ต.ค.64 พร้อมยังกำหนดยกเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตสถานบริการผับ บาร์ อาบอบนวด สนามกอล์ฟฟ สนามม้า ให้อีก 1 ปี แต่ตั้งเงื่อนไขต้องคงการจ้างงานต่อไปด้วย หวังช่วยบรรเทาทุกข์ให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือคนทุกกลุ่ม
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.63 ได้มีมติเห็นชอบวาระลับเรื่องการเสนอเลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่สรรพสามิต ยาเส้น ยาสูบ ที่จะปรับขึ้นจาก 20% เป็น 40% ออกไปอีก 1 ปี จากกำหนดเดิมในวันที่ 1 ต.ค.63 เป็นวันที่ 1 ต.ค.64 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศ ผู้นำเข้าบุหรี่จากต่างประเทศ และเกษตกรผู้ปลูกใบยาสูบ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังยังเสนอยกเว้นภาษีสรรพสามิตสินค้าและบริการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อีกหลายประเภท โดยต้องออกเป็นกฎหมายอีก 2 ฉบับ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ทั้งนี้ เมื่อกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว ยังกำหนดให้มีผลย้อนหลังไปจนถึงต้นปี 63 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
สำหรับสาระสำคัญในกฎหมายนั้น จะกำหนดให้ยกเว้นภาษีสรรพสามิตที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการผับ บาร์ อาบอบนวด สนามกอล์ฟ สนามม้า และบริการอื่นๆ ที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตได้รับการยกเว้นภาษีเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยกำหนดเงื่อนไขผู้ประกอบการยังต้องรักษาการจ้างงานพนักงานภายในกิจการของตนต่อไปตามนโยบายของรัฐบาลในการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ให้แก่ผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตจะมีการประกาศรายละเอียดเพื่อขยายความถึงการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวนี้อีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ จากที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้การเลื่อนการปรับขึ้นภาษีในครั้งนี้ จะมีผลให้การปรับขึ้นราคาบุหรี่ต้องเลื่อนออกไปอีก 1 ปี โดยก่อนหน้านี้โรงงานยาสูบได้เคยประเมินว่า หากรัฐบาลปรับขึ้นภาษียาสูบ 40% แล้ว จะทำให้บุหรี่ที่มีราคาขายต่ำสุดในปัจจุบันที่ซองละ 60 ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 80-90% ของตลาด ปรับราคาขึ้นซองละเป็น 93-100 บาท