โฆษกศาลยุติธรรมเผย ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาไปให้ผู้ต้องขังในเรือนจำฟังเป็นครั้งแรก ทำให้ได้รับความยุติธรรมอย่างรวดเร็ว และ ลดขั้นตอนเบิกตัวมาศาล
วันนี้ (10 มิ.ย.) นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวเปิดเผย ตามที่ นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา มีดำริว่า ที่ผ่านมา นับแต่ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จสิ้นกว่าที่ศาลชั้นต้นจะอ่านคำพิพากษาให้จำเลยฟังจะต้องผ่านขั้นตอนในการส่งสำนวนและซองคำพิพากษาศาลฎีกาผ่านทางระบบสารบรรณของแต่ละศาลและศาลชั้นต้นจะต้องนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาและส่งหมายให้คู่ความทุกฝ่ายทราบตลอดจนรอผลการส่งหมาย กว่าจะพร้อมอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาก็อาจใช้เวลานานหลายเดือน
ซึ่งหากผลคำพิพากษาศาลฎีกาทำให้จำเลยได้รับการปล่อยตัว หรือได้รับประโยชน์จากหมายจำคุกคดีถึงที่สุด ก็จะทำให้จำเลยเสียโอกาสเหล่านั้นไปในช่วงเวลาดังกล่าวไป จึงได้วางระเบียบราชการฝ่ายตุลาการ
ศาลยุติธรรมว่าด้วยการอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลฎีกาในคดีอาญาที่ศาลฎีกา โดยจัดให้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงในลักษณะการประชุมทางจอภาพ พ.ศ. 2563 (Video Conference) เพื่อเป็นการลดขั้นตอนในการที่จะต้องส่งสำนวนและคำพิพากษา หรือคำสั่งศาลฎีกาในคดีอาญาที่จำเลยต้องขังระหว่างการพิจารณาคดีไปให้ศาลชั้นต้นทั่วประเทศอ่านแทนศาลฎีกา
ซึ่งเมื่อวันที่ (9 มิ.ย.) ที่ผ่านมา เวลา 09.30 น. ผู้พิพากษาศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีอาญาเรื่องความผิดต่อพ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ ผ่านระบบสื่อสารทางไกลผ่านจอภาพ
(Video Conference) เป็นครั้งแรก ซึ่งตัวจำเลยถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง มีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำเป็นสักขีพยาน ยืนยันตัวตนจำเลยตลอดการอ่านคำพิพากษา ตามระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมฯ โดยศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องโจทก์ และมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นออกหมายปล่อยตัวจำเลยในทันที
นอกจากนี้ เวลา 10.30 น. ยังมีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีอาญา ผ่านระบบ Video Conference กับศาลจังหวัดนครสวรรค์และศาลจังหวัดพิษณุโลก โดยมีการเบิกตัวจำเลยที่ 2 ที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก โดยไม่ต้องเดินทางมาที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ แม้จะเป็นคดีอาญาของศาลจังหวัดนครสวรรค์ก็ตาม โดยเป็นคดีความผิดต่อพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ คดีนี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 และมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นออกหมายปล่อยตัวจำเลยที่ 2 ทันทีเช่นกัน
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ผ่านระบบสื่อสารทางไกลผ่านจอภาพให้จำเลยซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำฟัง เป็นการลดขั้นตอน ลดการเบิกตัวจำเลยมาศาลในกรณีที่สามารถเชื่อมสัญญาณกับทางเรือนจำได้ จะลดการใช้เครื่องพันธนาการ และลดความเสี่ยงในการหลบหนีเมื่อมีการควบคุมตัวจำเลยมาศาล อีกทั้งยังเป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของจำเลยที่ถูกคุมขังในระหว่างการพิจารณาคดี ทำให้จำเลยและคู่ความ เข้าถึงการอำนวยความยุติธรรมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แก่ผู้ถูกคุมขังในเรือนจำหรือสถานที่กักขัง อีกด้วย