xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ส.จับกุมคดียาเสพติดมากขึ้น หลังรัฐเริ่มผ่อนปรนมาตรการโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - “เลขาธิการ ป.ป.ส.” ระบุช่วงโควิด-19 ระบาดมีการตรวจตราเข้มงวด ห้ามเคลื่อนย้ายคน แต่เมื่อผ่อนคลายการควบคุม ยาเสพติดกลับมาลักลอบลำเลียงถี่ขึ้น ทั้งตามแนวชายแดนและเข้าพื้นที่ตอนใน หลังชะลอตัวกว่า 2 เดือน

วันนี้ (9 มิ.ย.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า ในห้วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งประเทศไทยและเมียนมาเริ่มมีการจับยึดยาเสพติดจำนวนถี่มากขึ้น ซึ่งจากการข่าวยาเสพติดดังกล่าวมีทั้งส่วนที่จะส่งผ่านไทยไปประเทศที่สามและมีส่วนที่แพร่กระจายในประเทศ ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากทั้งไทยและเมียนมาได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยช่วงที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดของโรคนั้น การจับยึดยาเสพติดทุกตัวยาทั้งบริเวณพื้นที่ชายแดน เส้นทางลำเลียงพื้นที่ตอนในและพื้นที่แหล่งแพร่ระบาดลดลงอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวในการกระทำผิดลดลง มาจากการดำเนินมาตรการต่างๆ ควบคู่กัน คือ การตรวจตราอย่างเข้มงวดตามแนวชายแดน ทั้งช่องทางปกติและช่องทางธรรมชาติ การห้ามเคลื่อนย้ายคนข้ามแดน การตั้งจุดตรวจคัดกรองตามเส้นทางระหว่างจังหวัด และการห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลาค่ำคืน

นายนิยม กล่าวอีกว่า ส่วนข้อมูลเฝ้าระวังของศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส.(ศปก.ป.ป.ส.) พบว่าในประเทศสถิติจับกุมในเดือนมี.ค.- เม.ย. 63 มีการจับยึดยาเสพติดแยกเป็น ยาบ้า 17.6 ล้านเม็ด ไอซ์ 1.3 ตัน และกัญชา 4.2 ตัน แต่ภายหลังที่มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสในเดือน พ.ค.63 เดือนเดียว มีการจับยึดยาเสพติดเพิ่มสูงขึ้นแยก เป็นยาบ้า 31 ล้านเม็ด ไอซ์ 310 กิโลกรัม และกัญชา 3.6 ตัน อย่างไรก็ตามยาเสพติดที่จับยึดได้นั้นส่วนใหญ่ถูกสกัดกั้นได้ตั้งแต่พื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ส. จะประชุมหารือกับหน่วยงานความมั่นคงในสังกัดกองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการเชิงรุกในการสกัดกั้นตามแนวชายแดนการสกัดกั้นเส้นทางลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนใน และการปราบปรามการแพร่ระบาดในพื้นที่ หลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เพิ่มไม่ให้ปัญหายาเสพติดย้อนกลับมาในระดับเดียวกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19

“ขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบให้ไว้เมื่อวันที่ 8 พ.ค.63 คือ รัฐบาลต้องการให้เกิดการบูรณาการอย่างแท้จริงทั้งแผนงาน โครงการ งบประมาณ บุคลากร โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการปรับแผนการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้เชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลเพื่อลดความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ หากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง” เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว

แฟ้มภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น