MGR Online - ภรรยาอดีตโชเฟอร์แท็กซี่ พร้อมทนายเข้าแจ้งความตำรวจ สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีสามีข้อหายักยอกทรัพย์ หลังถูกรางวัลที่ 1 ได้เงิน 12 ล้านบาท แล้วหอบเงินหนี เผยยังรักอยู่เสมอ ขอให้นึกถึงอดีตที่เคยลำบากด้วยกันมา
วันนี้ (2 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สน.ท่าข้าม น.ส.ณัฐนันท์ สิริสุขธนานนท์ นำพยาน 2 คน พร้อม ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม แจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ให้ดำเนินคดี นายวรายุ สุขสวัสดิ์ หรือ แป๊ะ อายุ 51 ปี สามี ซึ่งเป็นอดีตโชเฟอร์แท็กซี่ ที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 ก.พ.ุ 63 ในข้อหายักยอกทรัพย์ในกรรมสิทธิ์ร่วม หลัง น.ส.ณัฐนันท์ ไม่สามารถติดต่อหาตัวนายวรายุได้
น.ส.ณัฐนันท์ กล่าวว่า ตนได้ร่วมกับ นายวรายุ ซื้อลอตเตอรี 5 ใบ ราคา 500 บาท ที่จังหวัดราชบุรี เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยตนเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมด แต่สามีเป็นคนเก็บลอตเตอรีใส่กระเป๋าไว้เอง กระทั่งเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ผลรางวัลที่ 1 เลข 589227 ถูกประกาศออกมา ก็ได้ถามสามีว่า ลอตเตอรีที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ ถูกรางวัลหรือไม่ ซึ่งสามีก็บอกว่า ไม่ถูกรางวัล ต่อมาวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา สามีกลับมาบอกว่า ถูกรางวัล 12 ล้านบาท ขณะนั้นตนรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้เรียกร้องอะไร เนื่องจากมองว่า เป็นสามีภรรยากัน อีกทั้งสามีบอกว่า จะแบ่งเงินให้ซื้อบ้าน และใช้จ่ายในครอบครัว จนวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา สามีก็เก็บข้าวของหนีไป พร้อมรถกระบะที่ตนได้ซื้อไว้ใช้ขายของร่วมกัน โดยไม่บอกกล่าว และไม่สามารถติดต่อได้
น.ส.ณัฐนันท์ กล่าวอีกว่า วันนี้จึงมาแจ้งความเพื่อทวงความเป็นธรรม พร้อมขอไกล่เกลี่ยแบ่งเงินที่ตนควรได้รับ เนื่องจากที่ผ่านมา ตนเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในครอบครัวทั้งหมดกว่า 2 ปี อยากบอกสามีว่า ตนยังรักอยู่เสมอ แต่พอสามีถูกหวยขอให้นึกถึงความลำบากที่ผ่านร่วมกันมา ไม่ใช่หลบหนีหายไปเช่นนี้
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) พยานที่ใกล้ชิด ระบุยืนยันว่า ทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยากัน แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ก็เห็นว่าทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกัน โดยทำมาหากินด้วยกันตลอด ซึ่งไม่ถูกต้องที่สามีจะมาบอกว่าภรรยาใช้แรงงานหนัก และทั้ง 2 คน ก็ไม่ได้เลิกรากันตามที่ฝ่ายชายกล่าวอ้างแต่อย่างใด
ทนายรณรงค์ กล่าวว่า ผู้เสียหายจะแจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ ต่อนายวรายุ ซึ่งเป็นสามี เนื่องจากสลาก 2 ใบ ที่ถูกรางวัลเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกัน แม้ทั้งคู่จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ก็ต้องมาพิสูจน์ในชั้นศาลกันว่า เป็นสามีกันจริงหรือไม่ และจะต้องดูว่าในชีวิตคู่ ทั้งสองคนใช้จ่ายเงินกันอย่างไร จึงจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้