MGR Online - “เลขาธิการ ป.ป.ส.” แจงการปลูกกัญชาทางการแพทย์ วิสาหกิจชุมชนต้องยื่นอนุญาต อย. ตรวจแปลงปลูกตามขั้นตอน พบที่ผ่านมาจับทำลายพื้นที่ลักลอบ 48 แปลง รวมกัญชากว่า 14,000 ต้น
วันนี้ (24 พ.ค.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏข่าวการจับผู้ปลูกกัญชาหลายครั้ง มีปริมาณมากน้อยต่างกัน โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองจังหวัดสระแก้ว เข้าทำลายกัญชาที่ปลูกกว่า 1,200 ต้น โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับระบุว่ามีสถานะเป็นวิสาหกิจชุมชน ปลูกเพื่อส่งให้โรงพยาบาลจิตเวชของรัฐแห่งหนึ่งนำไปผลิตยารักษาโรค กรณีดังกล่าว อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน จึงขอเรียนว่า การปลูกกัญชาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ผู้มีคุณสมบัติที่จะขออนุญาตปลูกได้ กรณีเป็นเกษตรกรที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน จะต้องร่วมดำเนินการภายใต้ความร่วมมือและกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐ
นายนิยม กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีวิสาหกิจชุมชนบางแห่งได้จัดทำบันทึกความตกลงหรือ MOU กับหน่วยงานของรัฐ เพื่อปลูกกัญชานำไปผลิตเป็นยารักษาโรค แต่แม้ในการจัดทำ MOU จะทำให้วิสาหกิจชุมชนนั้นๆ มีคุณสมบัติตามกฎหมายที่จะสามารถยื่นคำขอรับใบอนุญาตปลูกกัญชาจากสำนักงาน อย. ได้ แต่โดยขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป ก็คือ วิสาหกิจชุมชนนั้น จะต้องไปยื่นคำขอรับใบอนุญาตปลูกกัญชาผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้เสนอคำขอมายัง สำนักงาน อย. จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบพื้นที่และแปลงปลูกว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานที่กำหนดไว้หรือไม่ ก่อนที่จะส่งให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษพิจารณาให้ความเห็นชอบ และเสนอต่อเลขาธิการ อย. ลงนามออกใบอนุญาตให้กับวิสาหกิจชุมชนนั้น ดำเนินการปลูกกัญชาตามที่ได้รับอนุญาตต่อไป ดังนั้น หากยังดำเนินการยังไม่ครบตามขั้นตอน ก็ไม่สามารถปลูกกัญชาได้ เพราะจะถูกจับและดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายนิยม กล่าวต่อว่า นับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 62 ผ่อนปรนให้มีการปลูกกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางแพทย์ถึงปัจจุบัน จากข้อมูลของสำนักงาน อย. มีการออกใบอนุญาตปลูกกัญชารวม 28 ใบ เป็นการอนุญาตให้สถาบันการศึกษา 12 แห่ง 14 ใบ หน่วยงานรัฐ 5 หน่วยงาน 10 ใบ หน่วยงานรัฐร่วมกับวิสาหกิจชุมชน 3 ใบ และสถาบันการศึกษาร่วมกับวิสาหกิจชุมชน 1 ใบ ขณะเดียวกัน จากการเฝ้าระวังของศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส. (ศปก.ปปส.) พบว่า ในช่วงเวลาเดียวกันมีการจับและทำลายพื้นที่ปลูกกัญชาใน 23 จังหวัด รวม 48 แห่ง โดยแยกเป็นการลักลอบปลูกในอาคาร 7 แห่ง ปลูกในพื้นที่เปิด 41 แปลง รวมกัญชาที่มีการลักลอบปลูก 14,886 ต้น ถูกทำลายทั้งหมด
“ปัจจุบันยังมีสถานะเป็นยาเสพติด บุคคลหรือองค์กรจะดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับกัญชาจะต้องดำเนินการให้ครบทุกขั้นตอนตามกฎหมายกำหนด ไม่เช่นนั้น จะเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และหากเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนใด มีข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการ หรือขั้นตอนขออนุญาตปลูกกัญชา ว่า จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ อย่างไรนั้น สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. โทร. 1386 หรือสายด่วน สำนักงาน อย. โทร. 1556” เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้าย