MGR Online - รอง ผบ.ตร.เผย รู้สึกไม่สบายใจกรณีชาวบ้านปิดล้อม 3 ตำรวจ บก.สส.ภ.8 จับกุมพ่อค้าหอยแครง เรียกรับเงิน 5 ล้าน ล่าสุด ผบช.ภ.8 สั่งเด้ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว กำชับตรงไปตรงมา หากพบผิดจริงฟันวินัย-อาญา อย่างเด็ดขาด
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รับผิดชอบงานด้านสืบสวน กล่างถึงกรณีที่ชาวบ้านบางสำโรง ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวนกว่า 300 คน ปิดล้อมรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย สังกัดกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (บก.สส.ภ.8) จับพ่อค้ารับซื้อหอยแครง พร้อมเรียกเงินจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี ว่า หลังทราบข่าวรู้สึกไม่สบายใจ เบื้องต้นได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยัง พล.ต.ต.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผบก.สส.ภ.8 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่ว่าจะเหตุอะไรก็แล้วแต่ ทางผู้บังคับบัญชาก็จะดำเนินการตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียน
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ในเบื้องต้น พล.ต.ท.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) ได้สั่งการให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 นาย มาช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการ ตำรวจภูธรภาค8 จ.ภูเก็ต พร้อมกำชับห้ามไม่ให้กลับเข้าไปในพื้นที่
“สำหรับการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขอให้เป็นอำนาจของ ผบช.ภ.8 ดำเนินการ โดยกำชับให้ทำอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่ากระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการโดยเด็ดขาด ซึ่งต้องดูที่เจตนา ถ้ามีการเรียกรับผลประโยชน์ ก็ถือว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ แต่ยืนยันตำรวจจะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเราไม่ต้องการลงโทษใคร ถ้าไม่ได้กระทำความผิดจริง แต่หากทำไม่ดีก็ต้องตัดนิ้วทิ้ง ไม่มีละเว้น” รอง ผบ.ตร.ระบุ
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 63 เวลาประมาณ 17.30 น. สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สส.ภ.8 จำนวน 3 นาย ได้เข้ามาทำการตรวจสอบทำประมงผิดกฎหมาย (หอยแครง) ในพื้นที่ และขณะทำการตรวจสอบได้เกิดการเข้าใจผิดกับชาวบ้านในชุมชุน จึงได้ถูกชาวบ้านซึ่งเป็นชาวมุสลิม กว่า 300 คน ปิดล้อม รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กจ 792 สุราษฎร์ธานี ของ จนท.ตร. จนไม่สามารถออกมาได้ จึงขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ์ สนับสนุนมาที่เกิดเหตุ โดยได้เจรจาเบื้องต้นกับผู้ชุมนุมปิดล้อม แต่ไม่สามารถเจรจาได้
โดยชาวบ้านเรียกร้องให้ นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตกำนันตำบลทุ่งกง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นคนกลางเข้ามาเจรจา และเมื่อได้ประสานติดต่อให้มาทำการเจรจากับชาวบ้าน ผลการเจรจาจบลงด้วยดี โดยชาวบ้านยอมเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ ตร.ที่ถูกปิดล้อมได้ แต่เจ้าหน้าที่ชุดกังกล่าวต้องไม่เข้ามาในพื้นที่อีกต่อไป
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายดังกล่าว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.สส.ภ.8 จริง ซึ่ง พล.ต.ท.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผบช.ภ.8 จะมีคำสั่งให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 นาย มาปฏิบัติหน้าที่ยัง ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ศปก.ภ.8) พร้อมมีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยหากพบว่ามีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ มีการเรียกรับเงินเพื่อให้ไม่ถูกดําเนินคดีตามที่ปรากฏเป็นข่าวจริง ให้ดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรม พร้อมเน้นย้ำ คณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง เร่งคลี่คลายข้อสงสัย และให้ความกระจ่างแก่สังคม และหากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้นจริง ซึ่งถือว่ามีความประพฤตินอกรีต ไปเรียกรับเงินทอง เรียกรับผลประโยชน์ หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ ขูดรีดประชาชน ให้เร่งดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่เอาไว้เป็นเยี่ยงอย่าง เพราะเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กระทำผิดกฎหมายเสียเอง ประกอบกับให้พิจารณาดำเนินการทางวินัยกับผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นฐานปล่อยปละละเลย ไม่สอดส่องดูแลความประพฤติผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น