แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เผยผลการตรวจชันสูตรศพรอบสอง “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ พบบาดแผลที่อวัยวะเพศแต่ไม่ถึงกับฉีกขาด และร่องรอยทำร้ายร่างกายบนตัว “น้องชมพู่” หลังครั้งแรกตรวจไม่พบ เก็บของเหลวช่องคลอดตรวจหาอสุจิ ตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง มัดตัวคนร้าย
วันนี้ (18 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นายไชย์พล วิภา ลุงของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้านพัก บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนจะพบศพน้องชมพู่ในสภาพนอนไม่สวมเสื้อผ้าอยู่บนภูเหล็กไฟ อุทยานแห่งชาติภูผายล ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร เดินทางมารับศพเพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศล โดยมี ร.ต.อ.นิพนธ์ ประเสริฐสังข์ ร้อยเวร สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร เดินทางรับผลการชันสูตรของ น้องชมพู่ ด้วย
เบื้องต้นแพทย์นิติเวช ระบุในใบแจ้งการตายของน้องชมพู่ ว่า ไม่ปรากฏสาเหตุการตาย แต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ
นายไชย์พล กล่าวว่า ตนทราบผลชันสูตรครั้งที่ 2 พบว่าน้องมีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ แต่ตรงไหนยังไม่ทราบ ส่วนตัวดีใจที่มีร่องรอยส่วนในทางคดีหลังจากนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่ว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน แต่ไม่รู้สึกกังวลเพราะได้มาถึงจุดนี้ ถ้ามีอะไรที่โยงเข้ากับผู้ร้ายได้ก็น่าจะจับได้เร็วๆนี้ ส่วนตัวยังไม่รู้ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นใคร ยังไม่สงสัยต้องรอพ่อแม่ แต่ยอมรับผลชันสูตรออกมาแบบนี้ก็โหดร้ายเกินไปและรับไม่ได้กับคนที่ทำกับหลานตนเองแบบนี้ พร้อมระบุ ลึกๆไม่อยากให้เป็นคนในชุมชน เพราะมันน่ากลัวเนื่องจากยังจับคนร้ายไม่ได้
"ตั้งแต่ผมอาศัยอยู่มาที่หมู่บ้านไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ ส่วนจะมีการฌาปนกิจศพหลานสาวหลังจากรับศพกลับไปที่บ้านหรือไม่ ต้องรอให้พ่อแม่ของน้องชมพู่ตัดสินใจอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ภาวนาไม่ให้หลานสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถ้าเป็นการลักพาตัวแล้วมาถูกซ้ำเติมด้วยการทำร้ายร่างกายแบบนั้นอีกไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แต่หากคนร้ายลักพาตัวไปแล้วหาทางกลับไม่ได้ ปล่อยน้องทิ้งไว้บนภูเขาคนเดียว ให้เป็นแค่เคสเดียวก็พอ ถ้ามีการล่วงละเมิดทางเพศน้องอีกก็ถือว่าใจร้ายมากๆ "นายไชย์พล กล่าวและว่าว่าอยากฝากเรื่องการดูแลลูกหลานให้ดี เพราะคนคิดจะทำไม่ได้ไม่เกรงกลัวกฏหมายบ้านเมือง ขอให้ระวังให้มากกว่านี้
สำหรับผลการชันสูตรศพของน้องชมพู่ เบื้องต้นพบบาดแผลที่อวัยวะเพศ และร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายบนตัวน้องชมพู่ ขณะเดียวกัน ได้เก็บของเหลวในช่องคลอดไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ คาดว่าอีก 1 เดือนจะทราบผลอย่างละเอียด โดยระยะเวลาการเสียชีวิตยังไม่นานเกินไป หากมีอสุจิก็สามารถตรวจพบได้ว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ ส่วนร่องรอยบาดแผลที่พบ แพทย์ที่ตรวจรายงานยังไม่ขอให้รายละเอียด แต่ทั้งนี้จะเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อไปตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากชิ้นเนื้อสามารถระบุได้ว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นเกิดจากการถูกทุบตี หรือกดทับ หรือมีการลากร่างเกิดขึ้นหรือไม่ ขณะเดียวกัน ทางแพทย์ยังได้เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อนำไปตรวจหาสารเสพติดและสารพิษว่ามีการวางยาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลทุกอย่างคาดว่าใช้เวลาอีก 30 วัน ที่ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการจะออก ซึ่งการชันสูตรวันนี้จึงยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้
มีรายงานว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 พบว่าน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หายตัวไปจากบ้านขณะอยู่บ้านกับพี่สาววัย 13 ปี กระทั่งถูกพบวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 พบว่าเสียชีวิตในสภาพเปลือย ในป่าภูเหล็กไฟ เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล จ.มุกดาหาร ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร หลังเกิดเหตุได้พนักงานสอบสวน สภ.กกตูม นำร่างน้องชมพู่ส่งชันสูตรที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี แพทย์นิติเวชระบุว่าไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายและการล่วงละเมิดทางเพศ แต่ญาติยังคงติดใจสงสัย และไม่ยอมฌาปนกิจศพ กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งศพน้องชมพู่มาให้แพทย์นิติเวช สถาบันนิติเวชวิทยา ผ่าชันสูตรอีกครั้ง