(Police Focus)
ผู้เสียหายเริ่มทยอยเข้าแจ้งความเพิ่มเติมที่ สน.บางขุนเทียน กรณีตำรวจ กก.สส.บก.น.9 บุกค้นแหล่งกักตุนหน้ากากอนามัย ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านจอมทอง กรุงเทพฯ ยึดของกลางได้เกือบ 4 แสนชิ้น นอกจากนี้ พบเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ และชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกหลายชิ้น มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท เตรียมขยายผลหานายทุนตามที่ผู้ต้องกล่าวอ้างว่า ให้ไปรับสินค้ามาจัดเก็บภายในบ้านหลังดังกล่าว
โดยตำรวจหนุ่มไฟแรงจากแดนสะตอ พ.ต.ท.นัยพินิจ รัฐธรรม สว.กก.สส.บก.น.9 ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา นำกำลังชุดสืบสวน บก.น.9 จับกุม นายอธิป (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ซึ่งต้องใช้เวลาแกะรอยพอสมควร ผู้กระทำความผิดกลุ่มดังกล่าวมีความรู้ และมีทุนในการหาสถานที่หลบซ่อนของกลาง เพื่อให้รอดพ้นจากสายตาของเจ้าหน้าที่ ส่วนหนึ่งโชคดีได้รับความร่วมมือจากประชาชน ที่ช่วยให้ข้อมูลจนสามารถจับกุมได้
พ.ต.ท.นัยพินิจ บอกว่า เคสดังกล่าวมีความจำเป็นต้องจับกุมปราบปราม เพราะอยู่ในช่วงที่ประเทศเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประชาชน โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ในช่วงแรกเห็นแล้วว่าขาดแคลนอย่างหนัก จนมีการระดมบริจาคจากผู้ใจบุญทั่วประเทศ ในขณะเดียวกัน กลับมีพวกนายทุนฉกฉวยโอกาสช่วงวิกฤต หาประโยชน์เข้าตัวเองโดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น ซึ่งคนที่ต้องการใช้จริงๆ กลับไม่มีโอกาสได้ใช้ หรือต้องซื้อในราคาที่แพงเกินกว่าปกติ
ตามนโยบายของรัฐบาลในห้วงนี้ที่ต้องการให้ประชาชน ได้เข้าถึงสินค้าจำเป็นและมีคุณภาพในราคาเป็นธรรม โดยปราศจากกลไกจากนายทุนที่เอาเปรียบ หรือการโขกราคา ผมภูมิใจที่อย่างน้อยอาจทำให้คนที่คิดทำตาม หรือพยายามเลียนแบบ เลิกคิดใช้วิธีการนี้ในการแสวงหาผลประโยชน์” สารวัตรวัย 34 ปี กล่าว
ย้อนดูประวัติ พ.ต.ท.นัยพินิจ หรือ “สารวัตรนกหวีด” พื้นเพเป็นคนเมืองคอน จ.นครศรีธรรมราช เกิดในครอบครัวที่พ่อแม่รับราชการครูอยู่ใน จ.นครศรีธรรมราช เกิดแรงบันดาลใจอยากสวมเครื่องแบบ และอยากช่วยเหลือประชาชน อาชีพตำรวจจึงเป็นทางเลือกเดียว จบออกจากรั้วสามพราน นรต.รุ่น 62 ก้าวแรกลง รอง สว.(สอบสวน) สน.บุคคโล ล่องใต้เป็น รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร กลับนครบาลที่ รอง สว.กก.สส.บก.น.8 ข้ามหน่วยขึ้น สว.กก.4 บก.ส.2 บช.ส.และย้ายมา สว.กก.สส.บก.น.9
สำหรับผลงาน สารวัตรนกหวีด เคยผ่านการทำคดีสำคัญ อาทิ เมื่อปี 2557 พื้นที่ สน.หลักสอง คดีลูกชายคนเล็กจ้างวานฆ่าพ่อ แม่ และพี่ชายของตัวเอง ปมสังหารสันนิษฐานว่า รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ครอบครัว มักนำไปเปรียบเทียบกับพี่ชาย ซึ่งเป็นตำรวจยศ ร.ต.ท.ประกอบกับหวังฮุบสมบัติเป็นที่ดิน 4 ไร่ มูลค่าหลาย 100 ล้านบาท และเงินฝากอีกหลาย 10 ล้านบาท วางแผนไว้ว่าจะขายที่ดินหลังคดีเงียบ แต่สุดท้ายไม่รอดพ้นน้ำมือตำรวจ
อีกคดีเมื่อปี 2562 พื้นที่ สน.หนองค้างพลู คดีสองคนร้ายชักปืนปล้นรถขนเงิน บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านหนองแขม กรุงเทพฯ คว้าเงินสดไปได้ 7 ล้านกว่าบาท โดยคนร้ายเคยเป็นพนักงานขับรถขนเงินดังกล่าว ก่อนจะถูกให้ออกจากงาน ตอนขับเคยแอบปั๊มกุญแจสำรองไว้ รู้ข้อมูลเรื่องรถขนเงินเป็นอย่างดี ทั้งสองเคยปล้นรถขนเงินบริษัทเดียวกันไปกว่า 6 ล้านบาท ไม่ถูกจับกุมจึงย่ามใจก่อเหตุอีกครั้ง ขณะนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ลงมาสอบปากคำด้วยตัวเอง
สว.หนุ่มเมืองคอน เผยสูตรสำเร็จว่า ความร่วมมือร่วมใจของทีมงานเป็นสิ่งสำคัญ ไม่มีใครเก่งคนเดียว ความคิดของแต่ละคนเป็นสิ่งที่ต้องรับฟัง ความหลากหลายทำให้ได้มุมมองที่แตกต่าง จะเอาความคิดตนเองเป็นใหญ่ เพียงเพราะการเป็นหัวหน้าไม่ได้ นอกจากนี้ ในโลกปัจจุบันการรู้เท่าทันเทคโนโลยีสำคัญอย่างยิ่ง จึงจำเป็นต้องเพิ่มเติมความรู้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ให้ก้าวทันโลกสมัยใหม่อยู่เสมอ
“แนวทางการทำงานของผมไม่มี one-man show และทุกอย่างจะออกมาดีหากทุกคนทำด้วยความตั้งใจ ได้รับการสนับสนุนให้พัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง หัวใจของงานอยู่ที่ความใส่ใจและตั้งใจ แล้วตนจะพยายามหาวิธีไปเจอมันจนได้ คำว่านักสืบต้องไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว เพราะอาชีพนี้ต้องพบเจอกับงานชิ้นใหม่อยู่ตลอดเวลา” พ.ต.ท.มากฝีมือ กล่าว
สว.กก.สส.บก.น.9 บอกความรู้สึกว่า ภูมิใจที่ผู้บังคับบัญชาให้โอกาสมาปฏิบัติงานที่นี่ ตนจะทำงานอย่างเต็มที่สมกับผู้บังคับบัญชาไว้วางใจ งานสืบสวนในพื้นที่ บก.น.9 ก็แทบไม่แตกต่างจากที่อื่น เพียงแต่มีพื้นที่รับผิดชอบค่อนข้างเยอะ และมีความหลากหลาย เนื่องจากมีอุตสาหกรรม เกษตรกรรม รวมถึงชายทะเลของกรุงเทพฯ อารมณ์จะออกกึ่งๆ ภูธร ฉะนั้น หากมีคดีเกิดขึ้นไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ตนจะคิดว่าเป็นคดีสำคัญทั้งหมด
มีรุ่นพี่ท่านนึงเคยสอนขณะสืบสวนคดีฆาตกรรม แล้วชี้ให้มองญาติคนตายพร้อมกับพูดว่า “ถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะเป็นคนทวงความยุติธรรมให้เขา งานนักสืบแบบนี้แหละ ตอบโจทย์ความเป็นตำรวจอาชีพให้กับเอ็ง” เป็นคำพูดที่ตนจำขึ้นใจจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่เฉพาะคดีฆาตกรรม แต่คดีลักวิ่งชิงปล้น หรือคดีทั่วๆ ไป เราจะต้องเป็นคนทวงทรัพย์สินคืนมาให้เขา