(Police Focus)
เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการปราบปรามปัญหาเงินกู้นอกระบบ ล่าสุด พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. นำกำลังทลายบริษัทปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดสัญชาติจีน ภายในตึกแถวสูง 4 ชั้น 2 คูหา เลขที่ 50/15-16 ถนนวุฒากาศ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. จับกุมพนักงานชาวไทยได้ 72 คน พร้อมยึดคอมพิวเตอร์ 82 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 200 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 10 บัญชี และเอกสารต่างๆ จำนวนหนึ่ง พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท
หากพูดถึงนักสืบชำนาญในคดีที่สลับซับซ้อน เกี่ยวกับการเงิน การธนาคาร และฉ้อโกงประชาชนในรูปแบบคอลเซ็นเตอร์ จะต้องมีชื่อ พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม.ซึ่งได้เรียนรู้วิชาจาก พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น อดีตรอง ผบ.ตร.ไปหลายตำรา ที่ได้มอบโอกาสหาประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศ แน่นอนว่า ท่านคือต้นแบบการทำงานด้านสืบสวน สอบสวน นักคิด และนักบริหารสำหรับตัวเขา
พ.ต.อ.สถิตย์ หนึ่งในทีมงานชุดจับกุมแก๊งเงินกู้มังกร กล่าวว่า เราใช้เวลาตามสืบสวน 2 เดือน จนสามารถจับกุมเจ้าของชาวจีนได้ 5 คน ขณะนี้เรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำแล้วบางส่วน รวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบเส้นทางการเงิน คาดว่าคงจะใช้เวลาสักระยะ คดีอยู่ระหว่างขยายผลผู้เกี่ยวข้อง หากใครได้รับความเดือดร้อน หรือข้อสงสัย โทร.สอบถามได้ที่ สน.บางขุนเทียน หรือ สตม.
เรื่องเงินกู้นอกระบบเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ซึ่งเคสดังกล่าวเข้ามาทำไม่ถูกต้อง 1. การจะเป็นบริษัทปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล ต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง และ 2. ดอกเบี้ยต้องไม่เกินกว่ากฎหมายกำหนด ปีละไม่เกินร้อยละ 15 แก๊งมังกรเริ่มต้นทำธุรกิจตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 โดยอาศัยความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19
ปล่อยวงเงินไม่เยอะเพราะความเสี่ยงน้อย ยอดเพดานให้กู้ต่ำสุด 2,000 บาท สูงสุด 5,000 บาท เอาวิธีการของจีนมาใช้ปล่อยกู้ โฆษณาในสื่อโซเชียลเน้นจำนวนผู้กู้เยอะ ความโหดอยู่ที่ผู้กู้ต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าสมัครร้อยละ 42 ของอัตราเงินกู้ กู้จำนวน 5,000 บาท จะถูกหักทันที 2,100 บาท เท่ากับได้เงิน 2,900 บาท กู้จำนวน 2,000 บาท หักทันที 840 บาท ได้เงิน 1,160 บาท ภายใน 7 วัน ต้องจ่ายเงินต้นทั้งหมด หากผิดนัดคิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นไปตามที่เขาต้องการ
ผู้กู้เป็นคนไทยทั้งหมดโดยใช้ 3 แอปพลิเคชัน คือ Cash Home, Take Money และ Cash Me มียอดดาวน์โหลดรวม ประมาณ 1.2 แสน อยู่ที่ว่าจะให้โหลดแอปฯไหน มีรายชื่อผู้กู้ยืม ประมาณ 20,000 คน แต่เราเชื่อว่ามากกว่านั้น เนื่องจากช่วงนี้คนเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 กู้ง่ายแค่มีคนกู้และคนค้ำส่งหลักฐานทางออนไลน์ โดยใช้หลักจิตวิทยา โทร.หาคนกู้ไม่รับสายก็โทรหาคนค้ำแทน แต่ยังไม่พบการข่มขู่ทำร้ายร่างกาย
ตนและทีมงานถนัดเรื่องสืบสวนเส้นทางการเงินอยู่แล้ว โดยภาพรวมของคดีไม่ถือว่ายาก ตนมองว่า เป็นคดีสำคัญเพราะเกิดในสถานการณ์โควิด-19 มาเอาดอกเบี้ยโหดกับคนไทยที่กำลังเดือดร้อน ทางรัฐบาลสนับสนุนให้กู้เงินในระบบการเงินของภาครัฐ ซึ่งกฎเกณฑ์ กติการ และหลักต่างๆ ตอนนี้ผ่อนผันไปมาก ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้บูรณาการปราบปรามกันมาตลอด ด้าน ผบ.ตร.ได้กำชับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
“ผมทำคดีใหญ่มาเยอะ ชอบคิดวิเคราะห์ ชอบลงไปอยู่ข้างสนามด้วยตัวเอง ผมเหลือเวลา 5 ปี ก่อนเกษียณอายุราชการ จึงต้องการสร้างทีมงานขึ้นมาใหม่ ผบช.สตม.ได้ดึงคนเข้ามาเพื่อฝึกเรียนรู้งาน แก๊งเงินกู้สัญชาติจีนหรือคดีอื่นๆ เกิดจากความร่วมมือของทีมงาน ที่เราได้ช่วยกันสร้างขึ้นมา ตั้งแต่ชั้นประทวนถึงผู้กำกับการ บางคนมีประสบการณ์บางคนก็ไม่มี เป็นความภูมิใจที่เด็กของเราเริ่มทำงานออกมาดี กับงานที่สลับซับซ้อนได้สำเร็จ และมีความสมบูรณ์” รอง ผบก.สส.สตม.กล่าว
สำหรับประวัติ พ.ต.อ.สถิตย์ หรือ “รองหนู” พื้นเพเป็นชาว จ.นครสวรรค์ จบ นรต.รุ่น 40 เริ่มรับราชการ รอง สว.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง รอง สว.สส.สน.นางเลิ้ง สว.สส.สน.ดุสิต สวป.สน.นางเลิ้ง สวป.สน.ห้วยขวาง สว.สส.สน.บางชัน สว.กก.1 บก.ทท.(สนามบินดอนเมือง) รอง ผกก.1 บก.ทท.(กรุงเทพฯ) ปัจจุบันคือ บช.ทท. ผกก.5 บก.ปอศ. ผกก.สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี ผกก.โคกกลอย จ.พังงา รอง ผบก.สส.ภ.2 และ รอง ผบก.สส.สตม.
มหาเมฆ 4 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยสัมผัสงาน สตม.ตอนเป็น สว.ท่องเที่ยว เพราะต้องจับกุมชาวต่างชาติ พล.ต.อ.ปัญญา สมัยนั่ง ผบก.ท่องเที่ยว เคยบอกว่า “ที่นี่อาจจะไม่มีอะไร แต่จะได้รู้จักพรรคพวก และได้ประสบการณ์ สนามบินคือประตูของประเทศ” ตนเอาประสบการณ์งานสืบสวนในนครบาล มาขยายต่อยอดจับคดีในสนามบิน อาทิ แก๊งลูกหมู แก๊งล้วงกระเป๋า แก๊งปลอมพาสปอร์ต และเข้ามาจับในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับทรัพย์
ช่วงเป็น รอง ผกก.ท่องเที่ยว มีโอกาสทำคดีคอลเซ็นเตอร์ในยุคบุกเบิกร่วมกับ พล.ต.อ.ปัญญา ได้เดินทางไปจับกุมในต่างประเทศ ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทยหรือของโลก สืบสวนจนทราบว่ามีกลุ่มคนไทยไปตั้งศูนย์โทรศัพท์ในเมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน จึงประสานตำรวจจีนจับกุมคนไทยได้ 40 กว่าคน นอกจากนี้ ยังพบแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกหลายประเทศ ก่อนจะรับตัวคนไทยมาดำเนินคดี มูลค่าเสียหายหลัก 100 ล้านบาท
ภายหลังร่วมอยู่ในชุด ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ “TACTICS” ทำเรื่องคอลเซ็นเตอร์ โรแมนซ์สแกม และฉ้อโกงประชาชน จนมาถึงยุค พล.ต.ท.สมพงษ์ ได้เข้าไปช่วยงานที่ศูนย์คนร้ายข้ามชาติ สตม.แล้วย้ายเข้ามาเป็น รอง ผบก.สส.สตม.เมื่อปลายปี 2562 รับผิดชอบงานสืบสวนปราบปราม นโยบายของ ผบช.สตม.มอบหมายให้แต่ละ บก.ช่วยกันสืบสวนจับกุม เพื่อนำผลงานมาแถลงในทุกสัปดาห์
ความสำคัญของงานสืบสวนคือ ทีมงาน ข้อมูลข่าวสาร ประสบการณ์ การประสานงาน และความมุมานะอดทน ตัวนักสืบเองก็ต้องมีวินัย ซื่อสัตย์ มีความรู้ในเรื่องกฎหมาย ทั้งสืบสวนและสอบสวน มีความรู้ทางด้านเทคนิคทุกอย่าง มีประสบการณ์ และรู้จักคิดวิเคราะห์ นักสืบเก่งๆ ต้องมีตรรกะที่ดี มีเหตุมีผล และคิดให้รอบด้าน สำหรับตนนั้นมีความซื่อสัตย์กับตัวเอง เพราะบางทีเราทำแต่คนอื่นเขาไม่รู้ หากซื่อสัตย์ในทุกๆ ด้าน ทำงานอย่างไรก็ไม่ผิดพลาด หมายถึงเราทำตามพยานหลักฐานอย่าไปไขว้เขว
ส่วนใหญ่คดีที่ตนทำแทบจะไม่ยกฟ้อง ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ตนคิดแบบตรรกะถ้าใช่ก็คือใช่ ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ เราจะทำอะไรสักอย่างต้องทำให้สำเร็จ “นักกีฬาต้องการชัยชนะเพื่อเป็นแชมป์ อาชีพนักสืบต้องการจับโจรเพื่อให้ประชาชนสุขสบายขึ้น” บางคนถูกหลอกตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้าน หรือจำนวน 29 ล้านบาท ตนก็เคยทำมาแล้ว ซึ่งผู้เสียหายเริ่มได้เงินคืน จากการทำงานของเราอย่างต่อเนื่อง มันคือความประทับใจของตน อย่างน้อยเขาก็ยังได้เงินคืนแม้จะไม่ครบก็ตาม