ศาลอุทธรณ์เเก้โทษ จำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 18 เดือน ไม่รอลงอาญา เสพยา-ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะบุกเข้าจับกุมในบ้านพักย่านบางเขน เมื่อปี 60
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 301 ศาลอาญามีนบุรีอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำที่ อ.1662/2561 ที่อัยการสำนักงานคดีอาญา 12 (มีนบุรี) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ ศิลปินร็อกเกอร์ชื่อดัง อายุ 46 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138, เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน พ.ศ. 2490
กรณีเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. 2560 จำเลยได้มีอาวุธปืนพกออโตเมติก ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนออโตเมติกอีกจำนวน 6 นัด และเสพเมทเอมเฟตามีน กับเสพเมทิลลีนไดออกซีเมทเอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เข้าสู่ร่างกายซึ่งจำนวนและน้ำหนักเท่าใดไม่ปรากฏชัด โดยจำเลยยังต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานด้วย เหตุเกิดที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
ในวันนี้ นายเสกสรรค์ หรือ “เสก โลโซ” จำเลยมาศาล ชั้นพิจารณาจำเลยให้การรับสารภาพข้อหาตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2561 พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดทั้ง 3 ข้อหา ให้จำคุกตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 1 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 6 เดือน, ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะประทุษร้ายโดยมีอาวุธปืน ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และฐานเสพยาเสพติด จำคุกอีก 6 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 18 เดือน และให้บวกโทษของศาลอาญาคดีทำร้ายร่างกายสาวคนสนิทอดีตภรรยาอีก 1 ปี 3 เดือน เป็นจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 2 ปี 21 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ เเม้ว่าจำเลยอ้างป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ขณะกระทำผิด เนื่องจากเห็นว่าจากพฤติการณ์การสื่อสารกับเจ้าหน้าที่พบว่าจำเลยรู้ผิดชอบดี จึงไม่อาจอ้างภาวะป่วยดังกล่าวได้ การกระทำของจำเลยนั้นไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งศาลเคยให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดีในการรอลงอาญาคดีอื่นไว้แล้ว แต่จำเลยยังมากระทำผิดซ้ำในช่วงเวลารอลงอาญาอีก จึงไม่สมควรให้รอลงอาญา และให้นับโทษจำเลยต่อจากคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว พิพากษาแก้เป็นว่าฐานมีอาวุธปืนซึ่งเป็นของผู้อื่นที่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 5 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน เมื่อรวมกับโทษฐานอื่นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นจำคุก 1 ปี 15 เดือน บวกโทษจำคุก 1 ปี 3 เดือนที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดง ที่ อ.3705/2559 ของศาลอาญาเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ เป็นจำคุก 2 ปี 18 เดือน ยกคำขอโจทก์ที่ให้นับโทษต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดง ที่ 971/2561 ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ภายหลังศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาให้จำคุกนายเสกสรรค์ หรือเสก โลโซ จำเลยได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว มูลค่า 600,000 บาท
ล่าสุดศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวชั้นฎีกา ตีราคาหลักทรัพย์ประกันตัว 6 แสนบาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขแต่อย่างใด จากนั้นนายเสกสรรค์ หรือเสก โลโซ จึงเดินทางกลับทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว จะบุกเข้าจับกุม “เสก โลโซ” ที่บ้านพัก “ศุขพิมาย” ภายในหมู่บ้านนันทวัน ย่านสุขาภิบาล 5 กทม. ตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 478/2560 ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2560 ข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน โดยมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน” ซึ่งมีอายุความ 15 ปี เนื่องจากนายเสกสรรค์เคยก่อเหตุเมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 29 ธ.ค. 2560 ได้ยิงปืน 10 นัด ภายในงานฉลองสมโภชและครบรอบ 250 ปี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในบริเวณวัดเขาขุนพนม ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ จ.นครศรีธรรมราช โดยอ้างว่าเป็นการบวงสรวงสมเด็จพระเจ้าตากสิน แต่ในวันที่ 31 ธ.ค. 2560 ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว จะเข้าจับกุมนายเสกสรรค์ได้ต่อสู้ขัดขวาง ข่มขู่ ซึ่งขณะนั้นก็มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองด้วย จนกลายเป็นข่าวดังช่วงปีใหม่ กระทั่งถูกจับกุมแล้วจึงส่งตัวพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ดำเนินคดี ซึ่ง “เสก โลโซ” นักร้องดังก็ได้ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์เงินสด 150,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล