MGR Online - “เลขาธิการ ป.ป.ส.” แจง กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดศูนย์สนับสนุนนำประโยชน์จากกัญชา-พืชกระท่อมให้ 272 รพ. นำไปรักษาผู้ป่วย
วันนี้ (2 พ.ค.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 63 ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้ นายวีรวัฒน์ เต็งอำนวย รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เข้าพบกับ นายแพทย์ มรุต จิรเศรษฐศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และ นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อหารือแนวทางการใช้ประโยชน์กัญชาและพืชกระท่อมทางการแพทย์แผนไทย ณ กระทรวงสาธารณสุข
นายนิยม กล่าวว่า ปัจจุบัน กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกได้จัดตั้ง “สำนักงานจัดการกัญชาและพืชกระท่อมทางการแพทย์แผนไทย” เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชาและพืชกระท่อมทางการแพทย์แผนไทย โดยมีการจัดทำเครื่องกัญชาและน้ำมันกัญชาสนับสนุนให้โรงพยาบาล 272 แห่งใช้ในการรักษา โดยมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาและรับยาสูตรแพทย์แผนไทยที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชาแล้ว 16,356 คน ควบคู่กับได้มีการศึกษาการใช้ยา 90 ตำรับ ที่มีส่วนผสมของกัญชา ซึ่งขณะนี้มีประกาศไปแล้ว 16 ตำรับ และอยู่ระหว่างเตรียมเสนอเพื่อประกาศเพิ่มอีก 13 ตำรับ นอกจากนี้ ยังให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐ
นายนิยม กล่าวอีกว่า ในส่วนของพืชกระท่อม กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ได้เตรียมเสนอตำรับยาที่มีพืชกระท่อมเป็นส่วนประกอบซึ่งมีความปลอดภัย 7 ตำรับยา และเตรียมเสนอเพิ่มในอนาคตอีก 8 ตำรับยา เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายในการใช้ประโยชน์จากพืชเสพติด ตั้งแต่ปี 2557 และมีความต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีพัฒนาการจนถึงขั้นตราเป็นกฎหมายให้มีการผ่อนปรนในการใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการปรับพืชกระท่อมออกจากยาเสพติด และตามนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทำให้ประเทศชาติได้รับประโยชน์สูงสุดและประชาชนได้รับความปลอดภัย ทั้งนี้ ขออย่าดำเนินการใดๆ กับกัญชาและพืชกระท่อม ในขณะที่ยังมีสภาพเป็นยาเสพติดอยู่ เพราะจะทำให้ถูกจับดำเนินคดี หากมีข้อสงสัยประการใดขอให้ติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง