ตามที่มีคำแนะนำให้ประชาชนใช้สมุนไพรไทย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย ต้านไวรัสโควิด-19 นั้น ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชี้แจงว่า มีพืชผักสมุนไพรบางชนิดที่แนะนำให้รับประทาน เพื่อช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่แข็งแรงขึ้น ลดโอกาสติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อโควิด-19 แต่ยังไม่มีรายงานการศึกษา และการวิจัยในคนเกี่ยวกับฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสโควิด-19
วันนี้ (21 เม.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อความแนะนำ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง สมุนไพรไทย ต้านไวรัสโควิด-19 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น มีข้อมูลบิดเบือน
ตามที่มีคำแนะนำให้ประชาชนใช้สมุนไพรไทย ที่ได้แก่ สะระแหน่ ขิง ใบกระเพรา กระเทียม ตะไคร้ หอมใหญ่หรือหอมแดง และพริก ในการดูแลตัวเอง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ต้านไวรัสโควิด-19 นั้น ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ชี้แจงว่า มีพืชผักสมุนไพรบางชนิดที่แนะนำให้รับประทาน เพื่อช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่แข็งแรงขึ้น ลดโอกาสติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นข้อมูลจากการจำลองสถานการณ์การจับกันของไวรัสกับสารสำคัญในพืชโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่ยังไม่มีรายงานการศึกษาในระดับหลอดทดลอง สัตว์ทดลอง และการวิจัยในคนเกี่ยวกับฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยพืชผักสมุนไพรที่แนะนำ ได้แก่ ขิง กระเทียม ที่เป็นกลุ่มเสริมภูมิคุ้มกัน และต้านการอักเสบ พริก เป็นกลุ่มผักผลไม้ที่มีวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระสูง หอมใหญ่ กะเพรา เป็นกลุ่มที่มีงานวิจัยเบื้องต้นว่ามีสารสำคัญที่อาจช่วยลดโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นข้อมูลจากการจำลองสถานการณ์การจับกันของไวรัสกับสารสำคัญในพืชโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
และสมุนไพรที่เหลือ ได้แก่ สะระแหน่ และตะไคร้ เป็นสมุนไพรกลุ่มที่มีน้ำมันหอมระเหยหรือมีสารสำคัญที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และยับยั้งเชื้อไวรัสก่อโรคระบบทางเดินหายใจได้ จึงเป็นสมุนไพรที่เป็นอาหารที่แนะนำให้รับประทานเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงในช่วงที่มีโรคระบาดเท่านั้น
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าวเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่ www.dtam.moph.go.th หรือโทร 02 5917007