MGR Online - ดีเอสไอ สนธิ ตำรวจ อย. กรมการค้าภายใน สำนักงานเขตทวีวัฒนา บุกตรวจสอบบ้านพักย่านทวีวัฒนา พบกักตุนสินค้าโภคภัณฑ์ไม่ผ่านวิธีการศุลกากร เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง
วันนี้ (2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้จัดตั้ง “ศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมพิเศษในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศูนย์ DSI COVID-19)” ขึ้น เพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์ และดำเนินการป้องกัน ปราบปราม สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมพิเศษ ในกรอบภารกิจและอำนาจหน้าที่ของดีเอสไอ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเปิดช่องทางรับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับอาชญากรรม โดยเฉพาะข้อมูลการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าควบคุมตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยสินค้าและบริการ (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2563 ที่จำเป็นต้องใช้อุปโภคในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 จำพวกหน้ากากอนามัย ใยสังเคราะห์เพื่อใช้ผลิตหน้ากากอนามัย ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมเพื่อสุขภาพอนามัยสำหรับมือ และกระดาษที่นำกลับมาใช้ได้อีก นั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 63 นายแพทย์ ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีดีเอสไอ และ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล ผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง พ.ต.ท.เชน กาญจนปัจน์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.ท.สายัณห์ พร้อมสินทรัพย์ รองผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง และ นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง 1 กองคดีความมั่นคง สนธิกำลังร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7, สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.), กรมการค้าภายใน และ สำนักงานเขตทวีวัฒนา เข้าดำเนินการตรวจสอบการกักตุนโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าควบคุม อาศัยอำนาจตามประกาศคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ และพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 ณ บ้านเลขที่ 133 หมู่ 2 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีลักษณะเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นที่เก็บสินค้า โดยมีนายต้น อบปิ่น เป็นผู้ครอบครอง
ผลการตรวจค้น พบสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลายรายการ ได้แก่ หน้ากากอนามัยแบบธรรมดา จำนวน 565 กล่อง กล่องละ 50 ชิ้น รวมจำนวน 28,250 ชิ้น เจลล้างมือแอลกอฮอล์หลายขนาดและหลายยี่ห้อ จำนวนมาก แผ่นกรองหน้ากากอนามัย จำนวน 8,200 ห่อ และชุดป้องกันไวรัส PPE (Personal Protective Equipment) จำนวน 1,800 ชุด รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 5,000,000 บาท
การกระทำดังกล่าว เป็นความผิดฐานนำเข้าโดยไม่จดแจ้ง, ทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง, ไม่แสดงฉลากภาษาไทย และแสดงฉลากภาษาไทยไม่ครบถ้วน ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 และฐานนำเข้าเครื่องมือแพทย์โดยไม่จดทะเบียนสถานประกอบการ ตามพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากดีเอสไอได้รับข้อมูลว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่เก็บสินค้าที่มีการลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยไม่ผ่านวิธีการศุลกากร และสินค้าบางชนิดมีความผิดตามกฎหมายเฉพาะ เช่น พระราชบัญญัติเครื่องมือการแพทย์ พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง โดยพนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง จะนำสินค้าไปตรวจสอบขยายผลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีความผิดอื่นหรือไม่ เช่น มาตรฐานสินค้า และฉลากสินค้า ต่อไป ดีเอสไอขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีคุณภาพ และมีแหล่งจำหน่ายที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งนอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนแล้ว ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้จริงหรือไม่ ทั้งนี้ หากท่านมีข้อมูลการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าควบคุม สามารถแจ้งข้อมูลดังกล่าวมายังดีเอสไอ ผ่านทางเว็บไซต์ https://register.dsi.go.th/CaseControlledProducts หรือ QR Code ที่ปรากฏในข่าวนี้ หรือโทรสายด่วน DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยดีเอสไอจะรักษาข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ