xs
xsm
sm
md
lg

อัยการสรุปคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินช่วง 1 เดือน จำนวน 15,895 คดี แนวโน้มลดลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



อัยการสรุปสถิติคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วง 1 เดือน มีทั้งหมด 15,895 คดี ผู้ต้องหา 21,426 คน เผยคดีมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (1 พ.ค.) นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า จากข้อมูลการดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในรอบ 1 เดือน ของสำนักงานอัยการต่างๆ ทั่วประเทศ ที่พนักงานอัยการได้ฟ้องคดีต่อศาลในช่วงระหว่างวันที่ 3-30 เม.ย. 2563 และได้รายงานเข้ามายังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของสำนักงานอัยการสูงสุด (ศบสค.อส.) ที่มี นายสาวิตร บุญประสิทธิ์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธานศูนย์ฯ โดยนายรัชต์เทพ ดีประหลาด ผอ.สำนักงานบริหารกิจการสำนักงานอัยการสูงสุด และ นางณฐนน แก้วกระจ่าง ผอ.สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ร่วมกันทำการรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลการดำเนินคดี ปรากฏว่า มีการฟ้องคดีผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วงดังกล่าว ทั้งสิ้น 15,895 คดี ผู้ถูกดำเนินคดีจำนวน 21,426 คน โดย ศบสค.อส. ได้จัดทำรายงานสถิติคดีการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วงระหว่างวันที่ 3-30 เม.ย. 2563 ดังกล่าว

นายประยุทธ กล่าวต่อว่า ถ้าดูย้อนหลังกลับไป 4 วัน คือ ช่วงระหว่างวันที่ 27-30 เม.ย. 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่พบผู้ติดเชื้อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รายใหม่ทั่วประเทศแต่ละวันไม่ถึง 10 คน หากพิจารณาจำนวนผู้ที่กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ในเวลาเดียวกัน ก็จะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน เช่น ในวันที่ 30 เม.ย. 2563 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 คน ในขณะเดียวกัน ผู้ฝ่าฝืนพระราชกำหนดฯ ทั่วประเทศ มีเพียง 656 คน

“จากความสัมพันธ์ของข้อมูลดังกล่าว เห็นได้ว่า ถ้ามีการปฏิบัติตามพระราชกำหนดฯ อย่างเคร่งครัด เช่น ให้ความร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัย ไม่มั่วสุมทั้งในบ่อนการพนัน หรืองานสังสรรค์รื่นเริง จะยิ่งทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นแนวทางในการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 อย่างไรก็ตาม อัยการสูงสุด ยังคงให้พนักงานอัยการทั่วประเทศบังคับใช้กฎหมายและมาตรการต่างๆ ตามหนังสือสั่งการโดยเคร่งครัดต่อไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น