xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.มูลนิธิรณสิทธิ์ช่วยเหลือเหยี่อค้ามนุษย์ ยื่น อสส.ตรวจสอบการอุทธรณ์คดีวิคตอเรีย ซีเครท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ปธ.มูลนิธิรณสิทธิ์ช่วยเหลือเหยี่อค้ามนุษย์ ยึ่นอัยการสูงสุด ตรวจสอบการอุทธรณ์คดี วิคตอเรีย ซีเครท ครบถ้วนหรือไม่

วันนี้ (29 เม.ย.) ที่สำนักงานอัยการสุงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ สตรีและเด็ก ได้ยื่นหนังสือถึง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด และคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เพื่อให้ตรวจสอบการใช้ดุลพินิจการไม่สั่งอุทธรณ์คดีสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท โดย นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกอัยการสูงสุด รับเรื่องไว้และส่งให้อัยการสูงสุด พิจารณาต่อไป

โดย นายรณสิทธิ์ กล่าวว่า ในฐานะที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ล่อซื้อและเข้าร่วมทลายอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท กับ ตำรวจ ทหาร ดีเอสไอ และฝ่ายปกครอง พบหญิงบริการซึ่งเป็นหญิงต่างด้าว กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านรวมคนไทยจำนวน 109 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมนายศรัทธาธรรม หรือ ป๋าติ๊ก แจ้งฉาย ผู้จัดการสถานอาบอบนวด กับพวกพนักงานเชียร์แขก ต่อมาจากการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้อเท็จจริงได้ความว่า เจ้าของสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท คือ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ ซึ่งอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องกับพวก รวม 45 คน ข้อหาค้ามนุษย์และค้าประเวณี แต่เนื่องจากไม่ได้นำตัวมาฟ้อง เนื่องจากหลบหนีคดี คงมีการส่งตัวจำเลยฟ้องต่อศาลเพียง 6 คน ประกอบด้วย นายเฉลียว จันทร์พิมพ์ หรือ เอส, นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือ ป๋ากบ, นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือ ป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการ, น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการมีอำนาจใน หจก.อมรินทร์ ออนเซน ที่ขอใบอนุญาตดำเนินกิจการ, หจก.อัมรินทร์ ออนเซน, นายเดชา สิงห์สาครเดชา หรือ หนู เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี, พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2561 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกนายบุญทรัพย์ หรือ ป๋ากบ จำเลยที่ 2, นายศรัทธาธรรม หรือ ป๋าติ๊ก จำเลยที่ 3 คนละ 2 ปี ฐานเป็นธุระจัดหาฯ ฐานเป็นผู้ดูแลและผู้จัดการสถานการค้าประเวณี คนละ 3 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 5 ปี

ส่วน น.ส.ศศิธร จำเลยที่ 4 ไม่ได้เข้ามาดำเนินกิจการในสถานบริการอาบอบนวดโดยตรง จำคุก 1 ปี นายเดชา จำเลยที่ 6 ให้จำคุก 5 ปี ฐานเป็นธุระจัดหาฯ และจำคุกอีก 4 ปี ฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รวมจำคุก 9 ปี

แต่ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก นายบุญทรัพย์ หรือ ป๋ากบ จำเลยที่ 2, นายศรัทธาธรรม หรือ ป๋าติ๊ก จำเลยที่ 3 คนละ 3 ปี 4 เดือน ส่วน น.ส.ศศิธร จำเลยที่ 4 จำคุก 8 เดือน และ นายเดชา จำเลยที่ 6 จำคุก 6 ปี และให้ยกฟ้องจำเลยข้อหาค้ามนุษย์ เพราะพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่พอฟังให้ลงโทษ ยกฟ้อง นายเฉลียว จำเลยที่ 1 และ หจก.อมรินทร์ ออนเซน จำเลยที่ 5

ทั้งนี้ ศาลพิพากษายกฟ้องผู้ต้องหาคดีนี้ในข้อหาค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นข้อหาหลักที่หญิงสาวผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติและมีบางรายเป็นเยาวชนซึ่งศาลได้ลงโทษจำเลยเพียงข้อหาค้าประเวณี

ดังนั้น จากเหตุแห่งความสงสัย ตนจึงได้มาสอบถามข้อเท็จจริงและเหตุผลที่ทางอัยการไม่อุทธรณ์คดีกับจำเลยทั้งหมด นอกจากนี้ยังเป็นเหตุให้ นายกำพล นางนิภา และ นายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาในคดีอาบอบนวด “วิคตอเรีย ซีเครท” นำมูลเหตุดังกล่าวมายื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ถอนหมายจับ นางนิภา นายธนพล พ้นคดีในที่สุด นายรณสิทธิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น