นายกฯ สั่งตำรวจกำราบผีพนัน-มั่วสุมตั้งวงดื่มสุรา ช่วงเคอร์ฟิว กำชับจัดระเบียบบริจาคสิ่งของ

MGR Online - นายกฯ สั่งตํารวจบังคับใช้กฎหมายเข้ม กำราบแก๊งมั่วสุมเล่นการพนัน-ตั้งวงดื่มสุรา กำชับจัดระเบียบการบริจาคสิ่งของ หลัง ศบค.ต่ออายุการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปอีก 1 เดือน

วันนี้ (27 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการปฏิบัติในการสนับสนุนการปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัวโคโรนา (โควิด-19) หรือ ศบค. มีมติขยายการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปอีก 1 เดือน ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะปฏิบัติตามมาตรการของทั้ง 4 มาตรการของ ศบค.อย่างเคร่งครัด ได้แก่ ควบคุมการเดินทาง ทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ คงมาตรการเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม ถึงตี 4 อีก 30 วัน มาตรการลดและชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด และสุดท้ายการงดกิจกรรมรวมตัวของคนหมู่มาก อาทิ การชุมนุม หรือ การสังสรรค์ที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ซึ่งทั้ง 4 มาตรการเกี่ยวข้องกับงานของตำรวจ ขณะเดียวกัน เตรียมจัดเจ้าหน้าที่สายตรวจร่วมกับทหารและฝ่ายปกครอง ออกตรวจตราเข้มข้น หลังมีการผ่อนคลายบางมาตรการ โดยสํานักงานตํารวจแห่งชาติ จะประสานกับฝ่ายทหาร และกระทรวงสาธารณสุข อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ หากพบว่ามีตำรวจนอกแถวฉวยโอกาสช่วงเวลาเคอร์ฟิวแสวงหาประโยชน์จากประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการให้ถึงที่สุด

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับผลปฏิบัติหลังมีประกาศเคอร์ฟิว ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา การตรวจค้นรถ และบุคคล พบว่า มีบุคคลที่ฝ่าฝืนช่วงแรกประมาณ 1,000 คนต่อวัน แต่ระยะหลังลดลง เช่น เมื่อคืนที่ผ่านมา เหลือเพียง 448 คน และมั่วสุมในเคหสถาน 59 คน และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

“พบว่ายังมีประชาชนที่ไม่ปรับพฤติกรรมตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ ยังลักลอบเล่นการพนัน ตั้งวงดื่มสุรา รวมถึงกลุ่มที่ฝ่าฝืนทำงานเกินเวลา ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและกติกาในลักษณะนี้อย่างเข้มงวด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องร่วมออกตรวจกับตำรวจมากขึ้น เช่น กระทรวงพาณิชย์ โดยจะเร่งปรับแนวทางการทำงานในส่วนนี้ ให้สอดรับกันมากขึ้น” โฆษก ตร.กล่าว

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้ตำรวจช่วยการจัดระเบียบการบริจาคสิ่งของให้กับประชาชนตามจุดต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยให้ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ต้องหูตาไวมากขึ้น และควรเข้าพื้นที่จัดระเบียบประชาชน ก่อนถึงกำหนดเวลาที่จะแจกของ เนื่องจากประชาชนไปรอของแจก ก่อนถึงเวลาจำนวนมาก