“ดีเอสไอ” จ่อเอาผิด บ.เมืองไทย แคปปิตอล หลังปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด

MGR Online - ผู้เสียหายร้อง “ดีเอสไอ” ถูก บ.เมืองไทย แคปปิตอล นำหลักทรัพย์ ทั้ง รถ จยย. รถยนต์ ขายทอดตลาดผ่านการประมูล หลังผิดชำระหนี้ พบหลักฐานปล่อยกู้เงินโดยเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

วันนี้ (1 เม.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า สืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับการร้องขอจากผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้กู้เงินจาก บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว โดยกล่าวหาว่า มีการปล่อยเงินกู้ให้ผู้เสียหาย โดยมีการทำสัญญาคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และใช้หลักทรัพย์เป็นทะเบียนรถจักรยานยนต์ หรือ รถยนต์เป็นหลักประกัน ซึ่งกระทำการผ่านสาขากว่า 4,000 สาขา ของกลุ่มบริษัททั่วประเทศ หากลูกค้าผิดนัดชำระ หรือ ไม่สามารถชำระหนี้สินตามสัญญาเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยได้ บริษัทจะทำการยึดรถหลักประกันที่ได้ระบุไว้ในสัญญามาขายทอดตลาดผ่านการประมูลที่ลานประมูลต่างๆ ทั่วประเทศในหลายพื้นที่ จึงเชื่อได้ว่า อาจจะมีผู้เสียหายในลักษณะดังกล่าวอีกเป็นจำนวนมาก โดย ดีเอสไอ ได้รับไว้สืบสวนเป็นเรื่องสืบสวนที่ 44/2563 และ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ได้สั่งการให้คณะพนักงานสืบสวนแสวงหาหลักฐานในกรณีดังกล่าว

กระทั่งเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา คณะพนักงานสืบสวนกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน นำโดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน เข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย จำนวน 3 แห่ง ตามหมายค้นศาลอาญา เลขที่ 212-214/2563 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2563 ประกอบด้วย (1) บริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ (2) ศูนย์ประมูลรถบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี และ (3) ศูนย์ประมูลรถบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) อ.เมือง จ.ชลบุรี

ผลการตรวจค้น พบสิ่งของที่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีอาญา ในความผิดฐานเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 เช่น ข้อมูลสัญญาการกู้ยืมเงินของลูกหนี้บริษัทดังกล่าว เอกสารเกี่ยวกับการประมูลรถยนต์จักรยานยนต์ และเอกสารประกอบอื่นๆ จำนวนมาก ทั้งนี้ หากเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะดำเนินการรับเป็นคดีพิเศษต่อไป

ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายในกรณีดังกล่าว หากประสงค์ส่งข้อมูลหรือแจ้งเบาะแสในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน หรือ โทร. 0-2831-9888 ต่อ 50302 หรือเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนได้ที่ กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารบี ชั้น 8 ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป โดยให้เตรียมหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เอกสารหลักฐานการกู้เงิน มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาเบื้องต้นด้วยต่อไป การสืบสวนเรื่องดังกล่าว เป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมในการเข้าถึงกระบวนยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกหน่วยงานต้องบูรณาการการทำงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว