xs
xsm
sm
md
lg

รวบคาบ้านพักพ่อเฒ่าฉกทองหนึ่งบาทจากร้านขายทอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



สืบสวนคลองหลวง จับชายวัย 64 ปี ภายในหมู่บ้านไวท์เฮาส์ ก่อเหตุลักทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ไปจากห้างทองคุงเซ่งเฮง

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 พ.ต.ท.ณฐณัษฐ์ สัมภัณสิทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.คลองหลวง, พ.ต.ท.สามารถ เปาจีน สว.สส.สภ.คลองหลวง, พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง, ร.ต.อ.ณพัทธ์พล ศรีพลอย รอง สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกันจับกุมตัวนายสมคิด หรือ ปาน น้อยอภัย อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/58 หมู่ 16 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยจับกุมได้ที่บ้านพักภายในหมู่บ้านไวท์เฮาส์ พร้อมด้วย ของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 15.2 กรัม จำนวน 1 เส้น โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ผู้อื่น หรือรับของโจร” การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากตำรวจได้รับแจ้งจาก นายวิรัตน์ ฐาปนะพงศ์ อายุ 49 ปี ว่า เวลาประมาณ 09.10 น. วันนี้ ได้มีคนร้ายอายุประมาณ 65 ปี ก่อเหตุลักทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ราคา 24,000 บาท แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดที่ห้างทองคุงเซ่งเฮง เลขที่ 51/170 ม.3 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ร่วมกันไปตรวจสอบ และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 65 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ สวมกางเกงขาสั้น ตัดผมสั้นเกรียน และจุดสังเกตมีไฝหรือปานบริเวณหน้าผาก หลังจากก่อเหตุได้นั่งวินรถจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนี เข้าไปภายในหมู่บ้านไวท์เฮาส์ หมู่ 16 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

จากการสืบสวนหาข่าวทราบชื่อคนร้าย คือ นายสมคิด หรือ ปาน น้อยอภัย อายุ 64 ปี พักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 32/58 หมู่ 16 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงได้ร่วมกันติดตามไปตรวจสอบ พบ นายสมคิด หรือ ปาน อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จึงได้เรียกให้ออกมาพบ และให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริงพร้อมทั้งนำสร้อยคอทองคำ ที่ลักทรัพย์มายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายสมคิด หรือ ปาน น้อยอภัย ให้การรับสารภาพว่า ตนเองนำสร้อยคอทองคำของตนเองที่ขาดมาเปลี่ยน โดยทางร้านคิด 1,900 บาท และได้ยื่นสร้อยคอทองคำมาให้ตนเอง 1 เส้น ให้ตนเองเลือก จากนั้นคนขายก็หันหลังไปหยิบทองอีกเส้นหนึ่ง ตนเองจึงกำสร้อยเส้นแรก ที่ทางร้านให้มาไว้ในมือ ก่อนจะอาศัยช่วงที่คนขายเผลอ นำสร้อยคอทองคำใส่กางเกง แล้วเดินออกจากร้านขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างกลับไปที่บ้าน ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ซึ่งที่ทำไปตนเองก็ไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน




กำลังโหลดความคิดเห็น