MGR Online - “เลขาธิการ ป.ป.ส.” เผย AITF ตรวจยึดลักลอบยาอีทางพัสดุไปรษณีย์จากยุโรปเข้าไทย อย่างต่อเนื่อง 6 เดือน จับ 15 ครั้ง ยึดยาอีกว่า 1 แสนเม็ด มีผู้เกี่ยวข้อง 20 ราย พบปลายทางออกต่างจังหวัด จัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โทษหนักถึงขั้นประหารหรือติดคุกตลอดชีวิต
วันนี้ (14 มี.ค.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า “ยาอี” หรือ เอ็กซ์ตาซี ถูกลักลอบนำเข้าทางพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศจากทวีปยุโรปเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เมื่อวันที่ 9-10 มี.ค. 63 เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ภารกิจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Taskforce : AITF) ตรวจยึดยาอี ที่ถูกส่งมาจากเยอรมัน 3 กล่อง รวม 4,835 เม็ด และมีการขยายผลจับผู้เกี่ยวข้องทั้งชาวไทยและต่างชาติในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ รวม 11 คน
นายนิยม เผยอีกว่า การจับยึด “ยาอี” ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ยังคงมีความพยายามนำเข้าจากประเทศแถบยุโรปอย่างต่อเนื่อง เพราะในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีการจับได้ถึง 15 ครั้ง ผู้กระทำผิด 20 คน เป็นชาวไทย 15 คน ชาวต่างชาติ 5 คน ยาอี รวม 105,382 เม็ด ถูกลักลอบนำเข้ามาจากเยอรมนีมากที่สุด 7ครั้ง โปรตุเกส 3 ครั้ง ฝรั่งเศส 2 ครั้ง เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และ สโลวีเนีย ประเทศละ 1 ครั้ง ซึ่งต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในระยะหลังพบว่ามีการจัดส่งไปต่อไปหลากหลายจังหวัดมากขึ้น เชื่อว่า เป็นความพยายามของขบวนการค้าที่ต้องการขยายตลาดให้กว้างขึ้น
“ยาอีจัดอยู่ในยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 โทษทางกฎหมายค่อนข้างหนักเช่น นำเข้ามีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต หากจำหน่ายมีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต ปรับสูงสุด 5 ล้านบาท และสำหรับการเสพนอกจากมีโทษทางกฎหมายแล้ว ยังมีโทษต่อร่างกาย เพราะยาอีออกฤทธิ์ต่อระบบประสาททำให้เกิดอาการประสาทหลอนอย่างรุนแรง และถ้าเสพเกินขนาดจะมีผลต่อการทำงานของหัวใจ ถึงขั้นอาจเสียชีวิตได้”
นายนิยม เผยต่อว่า ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ปัญหาจะต้องลดลงจนอยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ซึ่ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมทรัพยากรแก้ไขปัญหาในทุกมิติ และขอให้พยายามลดปัญหาให้ได้ในทุกวิถีทาง จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้เชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ทั้งนี้ประชาชนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ ซึ่งหากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง