MGR Online - “พิตตินันท์ รักเอียด” อดีตคณะทำงาน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เข้าพบ ปอท. แจ้งความเอาผิด “เสี่ยบอย” ข้อหา พ.ร.บ.คอมฯ และหมิ่นประมาทให้เสียชื่อเสียง ยอมรับขอซื้อหน้ากากอนามัยต่อ 4-5 พันชิ้นเพื่อไปแจกชาวบ้านที่สุราษฎร์ฯ แต่ไม่ขาย บอกต้อง 1 ล้านชิ้นขึ้นไป โอดเป็นเวรกรรมเจอ “บอย” แค่ 3 ชม. ทำให้ต้องโดนปลดจากทีมงาน “ธรรมนัส”
วันนี้ (11 มี.ค.) เวลา 14.00 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายพิตตินันท์ รักเอียด อดีตคณะทำงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมทนายความ เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สุโกศล ทองแกมแก้ว รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดี นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ “เสี่ยบอย” ตามความผิดฐานหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์ภาพแอบอ้างสร้างความน่าเชื่อถือลงในเฟซบุ๊ก เพื่อประกาศขายหน้ากากอนามัย โดยใช้เวลาสอบสวนกว่า 3 ชั่วโมง
นายพิตตินันท์ กล่าวว่า วันนี้มาให้การในฐานะพยานกับพนักงานสอบสวน ปอท. เอาผิด นายบอย ในข้อหา ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียง สืบเนื่องจากเมื่อวัน 20 ก.พ. ตนได้นัดหมายกับนายกันซึ่งเป็นรุ่นน้อง มาทานอาหารในโรงแรมย่านประตูน้ำ กรุงเทพฯ พร้อมแนะนำ นายบอย ให้รู้จักและขอถ่ายรูปกัน ซึ่งเจอกันเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น รวมทั้งมีการติดต่อนายบอยเพื่อขอซื้อขายหน้ากากอนามัย จำนวน 4,000-5,000 ชิ้น เพื่อไปแจกจ่ายชาวบ้านในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี แต่นายบอยจะขายจำนวน 1 ล้านชิ้นขึ้นไป โดยตนปฏิเสธ เพราะถือว่าเป็นจำนวนมากเกินไปและไม่รู้ว่านายบอยจะมีสินค้าหรือไม่แต่ไม่ได้คุยเรื่องราคา
นายพิตตินันท์ กล่าวอีกว่า ส่วนการถูกปลดจากคณะทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ คิดว่า เป็นเวรกรรมของตนเจอเพียง 3 ชั่วโมง ทำให้ชีวิตตนเองเปลี่ยนไปขนาดนี้ แต่ตนยังต้องทำงานในพื้นที่ ขณะนี้ตนได้ชี้แจงผ่านเลขาฯ ร.อ.ธรรมนัส ในกรณีดังกล่าวและไม่อยากให้ ร.อ.ธรรมนัส ต้องมาเดือดร้อนเพราะตน และขอโทษท่านด้วย เนื่องจากท่านเป็นคนตั้งใจทำงาน รวมทั้งยังส่งผลต่อชื่อเสียงครอบครัวตน เพราะหลายคนอาชีพการงานดีต้องมาได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดคนโพสต์ หรือแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับตนเพิ่มเติมด้วย