จับผัวเมีย 18 มงกุฎ หลอกสาวป่วยมะเร็งให้บริจาคเงินกว่า 4 แสน

MGR Online - กองปราบรวบสองผัวเมียมหาภัย อ้างเป็นแอดมินเพจจิตอาสาฯ ตุ๋นสาวป่วยมะเร็งให้บริจาคเงินช่วยคนป่วย-ไถ่ชีวิตโคกระบือ สูญเงินกว่า 4 แสน รับหาเงินใช้หนี้นอกระบบ






วันนี้ (8 มี.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ต.จักรี กันธิยะ สว.กก.4 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายสำรอง หาญสมบัติ อายุ 41 ปี และ นางสาววิไลลักษณ์ อินทรพิทักษ์ อายุ 40 ปี สองสามีภรรยาตามหมายจับศาลแขวงปทุมวัน ที่ 5-6/2563 ลงวันที่ 23 มกราคม 2563 ข้อหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” ได้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี

พ.ต.อ.ปทักข์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกคาง, มะเร็งปอด และมะเร็งเต้านม เข้าร้องเรียนกองปราบปราม ว่า ถูก นายสำรอง และ น.ส.วิไลลักษณ์ ทำทีโทรศัพท์และแชตข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กมาหา โดยอ้างตนว่าเป็นแอดมินเพจจิตอาสาเพื่อเด็กและสังคม ก่อนขอบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ที่จังหวัดขอนแก่น และเพื่อไถ่ชีวิตโค กระบือ หลังทราบว่าผู้เสียหายและลูกสาวป่วยโรคมะเร็งทั้งคู่ ได้รับเงินบริจาคจากชาวเน็ตใจบุญหลายแสนบาท

พ.ต.อ.ปทักข์ กล่าวต่อว่า ผู้เสียหายซึ่งมีความเห็นอกคนป่วยมะเร็งด้วยกัน จึงหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีของนายสำรอง และบัญชีของ น.ส.วิไลลักษณ์ เป็นเงินจำนวน 419,490 บาท จากนั้นผู้เสียหายได้ติดต่อไปยังแอดมินเพจจิตอาสาเพื่อเด็กและสังคม ว่า ได้โอนเงินบริจาคไปแล้ว แต่ทางแอดมินเพจดังกล่าวแจ้งว่าไม่ได้มีการรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายที่จังหวัดขอนแก่น และไม่ได้รับบริจาคเงินเพื่อไถ่โคกระบือแต่อย่างใด พร้อมทั้งแนะนำให้ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสอง ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายพักอาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี จึงนำกำลังจับกุมได้ดังกล่าว

จากการสอบสวนทั้งคู่รับสารภาพว่า ที่ก่อเหตุดังกล่าวเพราะเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบ จึงต้องใช้วิธีการเดิมในการหลอกลวงผู้เสียหายที่เป็นผู้ทุกข์ยาก เนื่องจากเป็นวิธีการที่ง่ายและได้เงินทันที เมื่อได้เงินมาแล้วก็จะนำเงินไปใช้หนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติ พบว่า เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2561 น.ส.วิไลลักษณ์ เคยถูกจับกุมหลังก่อเหตุแอบอ้างเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่ง และแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณา หลอกลวงผู้ทุกข์ยากให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตน มีผู้เสียหายสูญเงินไปนับแสนบาท เบื้องต้นแจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน น.ส.เอ ผู้เสียหาย กล่าวว่า อยากฝากเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อพวกมิจฉาชีพทางเฟซบุ๊ก และก่อนโอนเงินบริจาคช่วยเหลือใคร หรือหน่วยงานใดควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อน จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อพวกมิจฉาชีพเหมือนกับตนอีก