MGROnline - คืบหน้าการขยายผลจับกุมเครือข่ายแก๊งอุ้มบุญชาวจีน จ่อหมายจับอีกขยัก 4 ผู้ร่วมแก๊ง "อุ้มบุญ" เอาผิดแพทย์หลายคนร่วมเอี่ยวด้วย
วันนี้ (17 ก.พ.) เวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม. ) พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. เป็นประธานการประชุมความคืบหน้าคดีแก๊งอุ้มบุญ โดยมี พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. , นางนลินา ตันตินิรามัย ผอ.สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) , นางจันทนา จินดาถาวรกิจ ผอ.กองกฏหมาย สบส. , นายชาตรี พิณไย นิติกร กองกฎหมาย สบส. , นายฐานวัฒน์ พรนิธิดลวัฒน์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้เตรียมขอศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการที่อยู่ในกลุ่มนายเจ้า หราน ที่ถูกจับกุมเพิ่มอีก 4 ราย เป็นคนไทย 3 ราย และชาวต่างชาติ 1 รายทำหน้าที่เป็นผู้พาแม่อุ้มบุญไปทำคลอดในต่างประเทศ ส่วนการตรวจสอบสถานพยาบาลที่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวพบว่ามี 9 แห่ง แบ่งเป็นโรงพยาบาล 4 แห่ง และคลีนิกอีก 5 แห่ง ทั้งนี้ จากการสอบปากคำแม่อุ้มบุญทั้งหมด 29 คน มีข้อมูลว่า เครือข่ายของนายเจ้า หราน มีความเกี่ยวข้องกับแก๊งแม่อุ้มบุญ จ.หนองคาย และ แม่อุ้มบุญ 8 ราย จ.ปทุมธานี เรียกมาสอบรายละเอียดครบแล้ว เชื่อมโยงกับเด็ก 14 คนเดินทางไปต่างประเทศ เตรียมประสานหน่วยงานรับผิดชอบเพื่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ด้าน นางนลินา เผยว่า ในส่วนของสถานพยาบาล หากพบว่าสถานพยาบาลใดเกี่ยวข้องกับขบวนการอุ้มบุญไม่ว่ารูปแบบใด ก็จะดำเนินการทางกฎหมาย เบื้องต้นพบว่ามีแพทย์หลายคนที่ร่วมกระทำด้วย หากดำเนินการฝังตัวอ่อน หรือวิธีทางการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แม้จะทราบถึงรูปแบบของขบวนการแล้วทั้งหมดแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ขณะที่ นายฐานวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพัฒนาความมั่นคงทางสังคมและมนุษย์(พม.) ได้รับเด็กมาอยู่ในการดูแลของสถานรับรองในสังกัด พม. อยู่จำนวน 2 ราย ยังไม่มีผู้ปกครองมาแสดงตัวรับเด็กไปเลี้ยงดู ส่วนแม่อุ้มบุญยังอยู่ในการดูแลของ พม. ซึ่งสภาพจิตใจต้องใช้เวลาปรับตัวให้ดีขึ้นสักระยะ
ส่วนทาง นายชาตรี เปิดเผยว่า ส่วนการตรวจค้นบ้านที่เกิดเหตุของกลุ่มนายเจ้า หราน พบยาและเวชภัณฑ์ ทั้ง ยาแผนไทย ยาแผนโบราณ ยาที่ไม่ถูกขึ้นทะเบียนตำรับยาในไทย ซึ่งลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อใช้ในการเร่งฮอร์โมน ต้องนำไปให้คณะกรรมการอาหารและยาตรวจสอบและรายงานผลกลับมายัง ตำรวจ บก.ปคม.อีกครั้ง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา เช่นเดียวกับเครื่องมือการผสมเทียมที่ยึดได้จากบ้านที่เกิดเหตุ ว่านำเข้ามาอย่างถูกกฏหมายหรือไม่