MGR Online - เลขาธิการ ป.ป.ส.เตือนการสูดดมสารระเหยมีผลต่อสมอง ควบคุมตัวเองไม่ได้ หลอน และมีพฤติกรรมรุนแรงทำร้ายคนรอบข้าง ระบุแม้ไม่ใช่ยาเสพติด แต่ใครใช้ผิดประเภทโทษถึงติดคุก รวมทั้งคนที่ขายให้เยาวชนด้วย
สืบเนื่องจากที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีเยาวชนอายุ 18 ปี สูดดมสารระเหย กระทั่งเกิดอาการมึนเมา ควบคุมสติไม่ได้ มีอาการหลอนหวาดระแวง และใช้อาวุธทำร้ายร่างกายแม่ตนเองจนถึงแก่ความตายนั้น
วันนี้ (12 ก.พ.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า สารระเหย คือ สารที่ได้จากขบวนการสกัดน้ำมันปิโตรเลียม มีลักษณะเป็นไอ ระเหยได้ในอากาศ พบในรูปของกาวอินทรีย์สังเคราะห์ ทินเนอร์ หรือแลกเกอร์ เป็นสารที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม งานหัตถการต่างๆ เช่น งานตกแต่งหรืองานเครื่องเรือน หรือที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น ยาทาเล็บ สีสเปรย์ สเปรย์ฉีดผม น้ำมันรถ หมึกเติมเคมี เป็นต้น แต่มีการนำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ โดยนำไปสูดดม และหากสูดดมเป็นระยะเวลานานจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรง มีผลต่อสมอง สูญเสียความทรงจำและประสาทสัมผัสบางส่วน เช่น ทางการได้ยินหรือการรับกลิ่น หรือไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ กล้ามเนื้ออ่อนแรง เกิดภาวะซึมเศร้า ควบคุมตนเองไม่ได้ เดินเซ ตาพร่ามัว ในบางรายอาจชักเกร็งและหมดสติ ร่างกายมีอาการสั่น สมองสั่งการช้า และจะทำให้มีพฤติกรรมผิดปกติ จนเกิดอาการทางจิตเวช
นายนิยมกล่าวอีกว่า แม้สารระเหยจะไม่ใช่ยาเสพติดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 แต่หากพบว่าผู้ใดจำหน่ายหรือขายให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือผู้ที่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ คือ เอาไปสูดดมหรือด้วยวิธีอื่นใดเพื่อความเพลิดเพลินถือเป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ชักจูง ยุยงส่งเสริม หลอกลวงให้เด็กหรือเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี สูดดมสารระเหย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท
“แม้ปัจจุบันในประเทศไทยจะมีจำนวนผู้ติดสารระเหยเพียงไม่กี่พันราย แต่ด้วยผลเสียที่เกิดขึ้นต่อร่างกายของผู้สูดดมอย่างรุนแรง ทำให้ต้องเฝ้าระวังไม่ให้การแพร่ระบาดของสารระเหยขยายตัวมากขึ้น จึงขอฝากพี่น้องประชาชน หากบุคคลในครอบครัว หรือในหมู่บ้านชุมชนมีพฤติการณ์สูดดมสารระเหย ต้องรีบนำเข้ารับการบำบัดรักษา หรือแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว ทั้งนี้ สามารถขอรับคำปรึกษาด้านการบำบัดรักษาได้ที่ โทร.1165 หรือสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 ตลอด 24 ชั่วโมง” เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าว