ตำรวจสน.บางนา แกะรอยกล้องวงจรปิดตามจับ โจ๋วัย 19 ปี ใช้มีดจี้ข่มขู่เอาสร้อยคอทองคำ 50 สตางค์ แหวนทองคำ 1 สลึง และเงินสด 100 บาท ไปจากหญิงขณะเดินบนสะพานลอย พบเคยก่อเหตุลักษณะนี้มา 3 ครั้ง
เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 21 ม.ค. พล.ต.ต.สามารถ ศรีศิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 ได้สั่งการ พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางนา พ.ต.อ.ปิโยรส กัณหะสิริ ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ท.ศุภากร แก้วเขียว รอง ผกก.สส.สน.บางนา พ.ต.ท.ทองเปลว หาญไพบูลย์ สว.กก.สส.บก.น.5 และพ.ต.ต.เพิ่มสกุล นิลขำ สว.สส.สน.บางนา ร่วมกันนำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา และตำรวจ กก.สส.บก.น.5 จับกุมตัว นายมัรวาน หรือบังดุล ตีโม อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตระเวนชิงทรัพย์ตามสะพานลอย พร้อมของกลางจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีเทา และเสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ในการก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณบริษัทแห่งหนึ่งบนถนนเทพารักษ์ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ม.ค. เวลาประมาณ 14.00 น. มีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวเข้าร้องทุกข์ต่อตำรวจว่าขณะเดินขึ้นสะพานลอย ช่วงบริเวณสะพานกลับรถ ไบเทคบางนา แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ จากฝั่งบางนา-ตราด ขาออก เพื่อข้ามไปยังฝั่งบางนา-ตราด ขาเข้า เมื่อใกล้ถึงทางลงสะพานลอยฝั่งขาเข้า ได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ใช้อาวุธมีดข่มขู่ให้ผู้เสียหายส่งสร้อยคอทองคำ 50 สตางค์ แหวนทองคำ 1 สลึง และเงินสด 100 บาท ทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวจึงได้ส่งให้ เมื่อคนร้ายได้สร้อยคอทองคำและแหวนก็ได้วิ่งหลบหนีลงสะพานลอยฝั่งบางนา-ตราด ขาออก และขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปทางด้านบางนา-ตราด ขาออก
จากนั้นทางตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าสามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน เป็นชายสูงประมาณ 165 ซม. รูปร่างผอม สวมเสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ไว้ผมรองทรง ขับขี่ จักรยานยนต์สีแดง ไม่ทราบรุ่น ทะเบียน ทางชุดสืบสวนจึงทำการสืบสวนเรื่อยมากระทั่งทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายมัรวาน หรือบังดุล ทำงานอยู่บริษัทดังกล่าว จึงนำกำลังไปตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ และขยายผลไปตรวจค้นบ้านพักในตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พบของกลางทั้งหมด จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สน.บางนา
สอบสวนนายมัรวาน หรือบังดุล ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า เรียนจบเพียงชั้นมัธยมปีที่ 3 แต่ไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอม จึงไม่ได้วุฒการศึกษา ประกอบกับมีน้องที่กำลังเรียนอีก 2 คนจึงออกมาหางานทำเพื่อช่วยผู้เป็นแม่หารายได้ เพราะพ่อไม่ได้ทำงานอะไร ต่อมาไปรับจ้างเป็นพนักงานขนสินค้าในบริษัทดังกล่าว แต่เงินไม่พอใช้ ประกอบกับติดยาเสพติดใบกระท่อม วันเกิดเหตุยอมรับว่าคิดอะไรไม่ออก หยิบมีดทำครัวในบ้านขับขี่จักรยานยนต์ ตระเวนไปตามถนนบางนา-ตราด กระทั่งมาจอดรถที่เชิงสะพานลอยแห่งนี้ เมื่อเห็นเหยื่อหญิงสาวโดยคิดว่าไม่มีทางคิดต่อสู้ขัดขืน จึงเดินขึ้นไปบนสะพานพร้อมอาวุธมีด เมื่อถึงตัวเหยื่อจึงชักมีดขึ้นมาข่มขู่ให้ส่งทรัพย์สินมา เมื่อได้แล้วรีบวิ่งมาที่จักรยานยนต์แล้วขับหลบหนีไปจอดที่ปั๊มน้ำมันในซอยอุดมสุข 18 จากนั้นได้เข้าไปในห้องน้ำนำไฟแช็กมาจุดลนทองคำ ปรากฏว่ามีกลิ่นเหม็นไหม้จึงเชื่อว่าเป็นทองปลอม แล้วนำทิ้งชักโครกทันที
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงทำการสอบสวนขยายผลจนผู้ต้องหารายนี้ยังยอมรับอีกว่าเคยก่อเหตุลักษณะนี้อีก 3 ครั้ง ในพื้นที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ โดยเหยื่อเป็นหญิงทั้งสิ้น และมีหนึ่งในนั้นพยายามต่อสู้ขัดขืนคนร้ายจนทำอาวุธมีดตก แล้ววิ่งหลบหนีไปทันที ทุกครั้งเมื่อได้เงินมาจะนำกลับไปให้ผู้เป็นแม่เพื่อเป็นค่าอาหารให้น้องทั้ง 2 คน จนมาถูกจับกุมดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีเหยื่อรายใดถูกคนร้ายรายนี้ก่อเหตุลักษณะดังกล่าว สามารถตรวจสอบได้ที่ สน.บางนา ได้ทันที
เบื้องต้นทางตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธมีด โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยเปิดเผยโดยไม่มีเหตุสมควร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป