xs
xsm
sm
md
lg

สตช.โต้รอง ผบก.บช.ภ.9 มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมจึงถูกโยกย้าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รองโฆษก-ผบก.ทพ.ตั้งโต๊ะแจงกรณีรอง ผบก.บช.ภ.9 ฟ้อง ผบ.ตร.โยกย้ายไม่เป็นธรรม ชี้หากไม่พอใจร้องทุกข์ผ่าน ก.ตร.ได้ ย้อนให้ดูประวัติตัวเองถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ใช้ตำแหน่งเรี่ยไรเงิน

วันนี้ (14 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผู้บังคับการกองทะเบียนพล (ผบก.ทพ.) และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงกรณี พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รอง ผบก.อก.บช.ภ.9 ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหาใช้อำนาจแต่งตั้ง โดยมีเหตุจูงใจจากสาเหตุโกรธแค้น

พล.ต.ต.เดชากล่าวอีกว่า กรณีของ พ.ต.อ.ไพรัตน์ เดิมดำรงตำแหน่งรอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และในการแต่งตั้งในวาระล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้ไปดำรงตำแหน่งรอง ผบก.อก.บช.ภ.9 ซึ่งเป็นการแต่งโดยพิจารณาถึงความเหมาะสมของผู้บังคับบัญชา โดยข้อเท็จจริงเบื้องต้น พ.ต.อ.ไพรัตน์มีเรื่องถูกร้องเรียนถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายประการ การแต่งตั้งครั้งนี้จึงเป็นไปตามระเบียบและหลักเกณฑ์ สำหรับประเด็นการแต่งตั้งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปี ซึ่งตามกฎ ก.ตร.ไม่ได้กำหนดเรื่องนี้ไว้แล้ว โดย ผบ.ตร.ได้วางแนวหลักไว้ว่า หากดำรงตำแหน่งไม่ครบ 2 ปี ให้มีเหตุผลตามความจำเป็นในการแต่งตั้งโยกย้ายทุกราย การแต่งตั้งวาระต่างๆ ผ่านมา มีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปี ตามเหตุที่หน่วยต่างๆ เสนอมาอยู่แล้ว เมื่อการแต่งตั้งเสร็จสิ้นลง ข้าราชการตำรวจรายใดที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถใช้สิทธิในการร้องทุกข์ต่อ ก.ตร.ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 106 ได้

“การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจมีระเบียบ หลักเกณฑ์ และกฎหมายในการแต่งตั้ง โดยกฎ ก.ตร.ในการแต่งตั้ง ในปี พ.ศ. 2561 มีสาระสำคัญวางหลักการการแต่งตั้งไว้ว่า การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งใด ให้คำนึงถึงหน้าที่ความรับผิดชอบในการดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ โดยยึดหลักว่าทุกพื้นที่ต้องมีข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ ผู้มีอำนาจสามารถแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ในลักษณะงานและพื้นที่แตกต่างไปจากเดิมได้ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และการทำงานที่รอบด้าน ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาพิจารณาและเห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ราชการ สามารถแต่งตั้งข้าราชการตำรวจไปดำรงตำแหน่งต่างๆได้ตามสมควร ตามความเหมาะสม สำหรับอำนาจการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในระดับรอง ผบก.ลงมา พ.ร.บ.ตำแหน่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 54 ซึ่งแก้ไขคำสั่งตามอำนาจ คสช. ให้อำนาจ ผบ.ตร.ในการแต่งตั้ง โดยการแต่งตั้งจะทำในรูปคณะกรรมการ และจะมีการเสนอขึ้นมาตั้งแต่ระดับ บก., บช. จนถึงระดับ ตร.” ผบก.ทพ.ระบุ

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ผบ.ตร.อยู่ในตำแหน่งที่เป็นบุคคลสาธารณะ พร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบ ดังนั้น การฟ้องร้องกัน ถือเป็นเรื่องธรรมดา ผบ.ตร.ไม่ได้ติดใจอะไร แต่สิ่งที่อยากจะฝาก คือกรณีที่ พ.ต.อ.ไพรัตน์ออกไปพูดกับสื่อมวลชนถึงการแต่งตั้งโยกย้ายตนเองถูกกลั่นแกล้ง จึงอยากจะถามกลับไปว่าความประพฤติของตนเองที่ผ่านมา นับตั้งแต่ พ.ศ. 2544 ตั้งแต่ยังดำรงตำแหน่ง สว.จนปัจจุบันมีเรื่องร้องเรียนล่าสุด เมื่อปี 2560 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรี่ยไร การบังคับขายบัตรกิจกรรมดนตรี เพื่อนำรายได้มาใช้ในกิจการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีอย่างนี้ทำไมไม่พูดออกไปบ้าง อยากให้เอาข้อเท็จจริงมาพูดกันดีกว่า การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบก.ถึง ผกก.มีการแต่งตั้งทั้งหมุนเวียนและรับตำแหน่งที่สูงขึ้น ประมาณ 2,500 ตำแหน่ง หลังคำสั่งมีผลเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2562 และให้ไปรายงานตัวในวันที่ 16 ธ.ค. 2562 ดังนั้นในเมื่อเวลาล่วงเลยผ่านมาประมาณ 1 เดือน ทำไมเพิ่งจะตื่นมาฟ้องร้องว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม มีการรอรับฟังสัญญาณอะไรหรือไม่ จึงได้ออกมาฟ้องร้องในช่วงนี้ อีกทั้ง ผบ.ตร.ไม่รู้จัก พ.ต.อ.ไพรัตน์เป็นการส่วนตัว ในการแต่งตั้งผู้ที่ทำหน้าที่จะนำข้อมูลมาประกอบการแต่งตั้ง แนะพิจารณาไปตามเนื้อผ้า หลักการแต่งตั้งหากไม่พอใจเราก็มีช่องทางในการร้องทุกข์ ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ทำไม พ.ต.อ.ไพรัตน์ไม่ใช้ช่องทางเหล่านี้

รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่า กรณีนี้ตามที่มีการนำเสนอโยงไปถึงบุคคลอื่น ตนก็มีความสับสน เพราะกรณีนี้ พ.ต.อ.ไพรัตน์ฟ้องต่อศาลถึงการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ ผบ.ตร.เมื่อเป็นประเด็นของบุคคลสองฝ่าย แล้วไปโยงถึง พล.ต.ท.สุรเชษฐ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทำไม เป็นการดำเนินการเพื่อให้เกิดความสับสน ทำให้เกิดความซับซ้อนขึ้น หรือมีนัยอะไร คนละเรื่องกัน เรื่องของใครก็เรื่องของคนนั้น ต้องย้อนกลับไปดูว่าทำไมช่วงนี้มีประเด็นเหล่านี้ออกมา ถ้าช่วงนี้มีออกมาอย่างนี้ ตนเชื่อว่าในอนาคตก็จะมีกรณีอย่างนี้ออกมาอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น