MGR online - ที่ปรึกษาพิเศษสํานักนายกฯ ลั่นรู้ตัวผู้สั่งการลอบยิงรถ ปัดปมยกเลิกจัดซื้อจัดจ้างซื้อไบโอแมตทริกซ์ สมัยนั่งอดีต ผบช.สตม. จี้ ผบ.ตร.หากจับไม่ได้ต้องรับผิดชอบ เผย ความในใจอยากกลับไปเป็น ตร.อีก
จากกรณีเมื่อค่ำวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา มีคนร้ายลอบยิงปืน 8 นัด ใส่รถยนต์ยี่ห้อเลกซัส สีขาว ทะเบียน 9 กจ 351 กทม. ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรี อดีต ผบช.สตม. ภายหลังจอดรถไว้และไปใช้บริการที่ร้านนวดแห่งหนึ่งในซอยสาริกา ก่อนคนร้ายจะขี่จักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีดำ หลบหนีไปโดยมุ่งหน้าแยกสามย่านตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (8 ม.ค.) ที่ สน.บางรัก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เข้าพบ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เพื่อให้ข้อมูลในคดีถูกลอบยิงรถยนต์ส่วนตัวเมื่อคืนวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า ส่วนตัวอยากกลับมาเป็นตำรวจ แต่คงไม่จำเป็นต้องสร้างเรื่อง หรือสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ตัวเองเด่นดัง เพราะตั้งแต่พ้นจากตำรวจก็เก็บตัวเงียบมาตลอด ไม่เคยออกมาโวยวายหรือร้องขอต่อสื่อมวลชน
ส่วนตัวยังคงเชื่อมั่นว่า สาเหตุที่ถูกลอบยิงรถยนต์มาจากการที่ตัวเองเตรียมเข้าเป็นพยาน กรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนโครงการจัดซื้อจัดจ้างซื้อไบโอแมตทริกซ์ ซึ่งส่วนตัวมองว่า โครงการนี้มีมูลค่าสูงถึง 2,000 ล้านบาท และผ่านการพิจารณาเรื่องจากอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมามากถึง 3 คน ดังนั้น การที่ตัวเองตัดสินใจยกเลิกโครงการนี้ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ถือเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับ โดยวันนี้ยังนำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว มามอบให้กับพนักงานสอบสวนรวบรวมไว้ในสำนวนคดี
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังเชื่อมั่นว่า คดีนี้น่าจะจับตัวผู้ก่อเหตุได้ไม่ยาก เนื่องจากมีกล้องวงจรปิดจำนวนมาก และส่วนตัวทราบผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง โดยเป็นผู้มีอำนาจ นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ ผบ.ตร.ช่วยจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจวาระประจำปีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมายืนยันว่า มีการแต่งตั้งคนดีเข้ามาทำงาน ซึ่งหากจับผู้ก่อเหตุไม่ได้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องรับผิดชอบ