รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 8 มกราคม 2563 ตอน บิ๊กโจ๊ก แฉปมแค้น ล่ามือปืน-คนบงการ
เปิดศักราชใหม่ปี 2563 ข่าวอาชญากรรมไม่มีประเด็นไหนที่จะร้อนแรง และถูกพูดถึงมากเท่ากับเหตุคนร้ายยิงถล่มรถยนต์ส่วนตัวของบิ๊กโจ๊ก พล. ต. ท. สุรเชษฐ์ หักพาล เมื่อคืนวันที่6 มกราคม เป็นการลงมือที่อุกอาจท้าทายกฎหมายบ้านเมืองมาก ที่ใช้ปืนรัวกระหน่ำยิง8 นัดกลางกรุงย่านบางรัก
เคราะห์ดีที่ยิงขณะรถจอดบนลานจอดรอ บิ๊กโจ๊กไม่ได้อยู่ในรถ จึงไม่เป็นไร จะเห็นว่าคนร้ายเจตนาแค่เลือกยิงใส่รถ ยังไม่ต้องการเอาชีวิต จึงสันนิษฐานว่า ปฎิบัติการครั้งนี้เป็นเพียงการข่มขู่เพื่อส่งสัญญาณบอกไปถึง บิ๊กโจ๊กว่า คราวนี้ยิงรถ คราวหน้ายิงคน ข้อนี้เป็นไปได้มาก
ส่วนจะเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ ก็มีคนสงสัยกันมาก แต่ก็มีคำถามตามมาว่าทำแล้วจะได้ประโยชน์อะไร เป็นข่าวดังแล้วจะมีผลดีอย่างไร ซึ่งยังคิดไม่ออก ยิ่งหากมองว่า เป็นการสร้างข่าวหนึ่งขึ้นมา เพื่อเรียกแฟนคลับมาสนใจ แล้วเปิดอีกข่าวหนึ่ง ก็อาจคิดได้ทำได้
แต่ถ้าเป็นแผนทำขึ้นมาเอง มันเสี่ยงที่ผลลัพธ์จะไม่ได้ผลเลิศ แต่มีแต่เสียกับเสีย ต่อไปเมื่อมีการจับผิดได้ ก็จบข่าว อนาคตดับ ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกแน่
พฤติการณ์แห่งคดีมันชวนให้คิดได้หลายทาง เผื่อใจไว้จะเป็นถูกข่มขู่หรือจัดฉาก อะไรก็ยังเป็นไปได้ทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม ปมเหตุลอบถล่มรถบิ๊กโจ๊ก เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่อาจชี้ชัดได้ แต่สำหรับบิ๊กโจ๊กน่าจะพอรู้แล้วว่า อริที่ลงมือเป็นใคร และสาเหตุลึกๆแล้วมาจากเรื่องอะไร
ตอนนี้ บิ๊กโจ๊ก ได้แย้มมาแล้วว่า เขามีข้อมูลอยู่แล้วว่าอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คิดว่าอาจมาจากประเด็นเรื่องเดียวที่มีผู้เสียผลประโยชน์ และเป็นประเด็นอยู่ทุกวันนี้ จากการเสนอยกเลิกโปรเจคเครื่องไบโอเมทริกซ์ เนื่องจากไม่ได้ประสิทธิภาพ
ส่วนเรื่องรถสายตรวจอัจฉริยะ ก่อนเขาเข้ามาได้มีการเซ็นเรื่องจัดซื้อไปเรียบร้อยจบหมดแล้ว โดยบิ๊กโจ๊กย้ำว่า วานให้สื่อไปตรวจสอบโปรเจคเครื่องไบโอเมทริกซ์ ว่าใช้ได้จริงไหม มีประสิทธิภาพจริงรึเปล่า
โครงการจัดซื้อเครื่องตรวจ พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า หรือไบโอเมทริกซ์ เป็นโปรเจกต์ใหญ่ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติปั้นขึ้นมา ได้ปิดโครงการส่งมอบกันไปแล้วเมื่อปี2562
โดยใช้งบประมาณเป็นเงินจำนวน2100 ล้านบาท ซื้อจำนวน1843 เครื่อง เพื่อให้หน่วยงานตำรวจหลายหน่วยใช้ในการตรวจหาอันลักษณ์บุคคล ที่ทันสมัย
ดูเหมือน บิ๊กโจ๊กจะมั่นใจว่า ปัญหาความขัดแย้งจากเรื่องโปรเจกต์ซื้อเครื่องไบโอเมทริกซ์ เป็นมูลเหตุทำให้มีการสั่งยิงถล่มรถของเขา ทั้งที่บิ๊กโจ๊กถูกมองว่าเป็นคนหนึ่งที่มีโจทก์เยอะ อันเป็นผลมาจากที่เขาเคยมีอำนาจในสตช. มาในยุคคสช.
ไม่ว่าจะเป็นเหตุจากที่เขามีส่วนรู้เห็นในการแต่งตั้งนายตำรวจทุกระดับ การที่อยู่ในวงอำนาจตรงนี้ทำให้คนพลาดหวังจำนวนมาก แล้วก็เกิดความเจ็บแค้น หรือจะเป็นปัญหาจากการทำงาน โดยเฉพาะในการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญกับบริษัททัวร์จีน ก็เป็นประเด็นที่ทำให้เกิดการเสียผลประโยชน์นับหมื่นล้านบาท
แต่เรื่องราวเหล่านี้ บิ๊กโจ๊กกลับเชื่อว่าไม่ใช่ปมปัญหา ที่นำมาสู่การสร้างสถานการณ์ข่มขู่ยิงถล่มรถของเขา
เมื่อพิจารณาจากการลงมือครั้งนี้ มีการวางแผนกันมาเป็นอย่างดี คนร้ายมากันสองคน ใช้มอเตอร์ไซค์ เป็นพาหนะ และยังมีคนเห็นว่ามีรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ สีดำ ขับมาดูลาดเลาให้มือปืนด้วย
อาจจะคิดได้ว่า แผนปฏิบัติการครั้งนี้คนร้ายอาจจะรู้ว่าให้ยิงรถคันไหน แต่คงจะไม่รู้หรอกว่า รถคันนั้นเป็นรถของใคร เพื่อป้องกันไม่ให้แผนรั่วก่อนลงมือ และเพื่อไม่ให้มือสั่น ถ้ารู้เป็นรถอดีตนายตำรวจคนดัง
แต่คนในรถเบนซ์สีดำที่เป็นคนชี้เป้าหมายต้องรู้ทุกอย่าง น่าจะเป็นพวกรับงานมาจากสายตรง ดังนั้นคงต้องรอตำรวจจะจับคนร้ายทีมลงมือทำงานได้หรือไม่ แต่ยังไงเชื่อว่า โอกาสจะรู้ตัวและจับคนร้ายมีค่อนข้างสูง
อย่าคิดว่าจะเหมือนกรณีจ่านิว นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ที่ถูกรุมทำร้าย จนป่านนี้ผ่านมาหลายเดือนยังไม่มีวี่แวว ยิ่งนานยิ่งมืดมน จนแทบจะสิ้นหวังไปแล้ว
สำหรับคดีนี้เหตุการณ์นี้ เป็นเหตุที่เกิดกับบิ๊กโจ๊ก ซึ่งนับว่าชีวิตที่ผ่านมาของคนๆนี้ไม่ธรรมดา ความไม่ธรรมดาของเขาขอให้ดูจากการเลื่อนตำแหน่งและยศ ในห้วงเวลาแค่ 4-5 ปีสามารถทะยานขึ้นจากพันตำรวจเอกเป็นพลตำรวจโทได้ เหมือนขึ้นลิฟต์
แถมเมื่อเติบโตเร็วแล้ว ยังมีอำนาจเหลือล้นในวงการสีกากีในช่วงก่อนที่จะโดนมรสุมถล่มเมื่อเดือนเมษายน ปีที่แล้ว ที่กระเด็นไปนั่งเป็นที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
และโดยเนื้อแท้ตัวตนของบิ๊กโจ๊ก ก็เป็นนักสู้ที่ไม่ยอมถอยง่ายๆ สมัยเป็นนายตำรวจเล็กๆยังเคยต่อกรสู้คดีกับนายพลจนชนะมาแล้ว แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ซึ่งเป็นการหยามหน้า และย่ำยีศักดิ์ศรีมาก มีหรือบิ๊กโจ๊กจะยอมปล่อยให้ถูกกระทำฝ่ายเดียว
บิ๊กโจ๊กวันนี้ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นตำรวจ แต่เครือข่าย เงิน และศักยภาพรอบด้านยังแน่นอยู่ รวมทั้งเขายังไม่ได้หลุดจากวงอำนาจอย่างสิ้นเชิง การที่จะสั่งล่าตัวคนร้ายระดับนี้ ยังถือเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก ดังนั้น จึงเชื่อว่า คนร้ายที่ถล่มรถเขา จะต้องถูกล่าตัวอย่างหนักเป็นแน่
ไม่ว่าจะเป็นมือปืนอยู่สังกัดซุ้มไหน ตอนนี้ต้องหนาวๆร้อนๆแล้ว เพราะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญ ทันทีที่ได้ตัวคนยิงก็จะเปิดหน้าผู้อยู่เบื้องหลังผู้บงการ ออกมาด้วยด้วยเช่นกัน
ความเข้มข้นของคดีนี้ จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะบิ๊กโจ๊กได้เปิดปมเหตุมาแล้ว ว่าเป็นเรื่องขัดแย้งในโครงการไบโอเมตริกซ์ ที่มีผลประโยชน์ล่อใจไม่ใช่น้อย ยกต่อไปก็คงจะมีการปล่อยทีเด็ดลึกๆออกมาอีก ซึ่งคงจะควบคู่อย่างเร้าใจไปกับการล่าตัวมือปืน
ในวันเกิดเหตุ พล. ต. อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่อยู่ไทยไปต่างประเทศ ซึ่งการเกิดเหตุยิงถล่มใส่รถส่วนตัวอดีตนายตำรวจคนดังกลางกรุง ถือว่าเป็นคดีที่ผบ. ตร. จะออกมาชี้แจงกับสังคม เหมือนคดีดังอื่นๆ ที่บิ๊กแป๊ะ จักรทิพย์ไม่เคยพลาดที่จะลงมาคุมคดีเอง
และคดีนี้ ยังมีการเชื่อมโยงปมเหตุคดีมาจากเรื่องโปรเจกต์ยักษ์ ไบโอเมทริกซ์ ที่อยู่ในอำนาจของผบ. ตร. ด้วย ดังนั้นเมื่อพล. ต. อ. จักรทิพย์กลับมาแล้ว คงมีประเด็นอื่นๆอีกมากที่ต้องติดตาม อย่างห้ามกะพริบตาทีเดียว