ป.ป.ส.ตรวจเข้มผู้ขับรถโดยสารสาธารณะช่วงปีใหม่ ส่งผลไม่พบรถโดยสารประสบอุบัติเหตุ

MGR online - ป.ป.ส. ร่วมหน่วยภาคี ลงพื้นที่ช่วงปีใหม่ ตรวจเข้มยาเสพติดผู้ขับขี่รถสาธารณะรวม 2,979 ราย เจอสารเสพติด 8 ราย ส่งผลไม่พบอุบัติเหตุจากรถโดยสาร

วันนี้ (4 ม.ค.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงการดำเนินงานตามนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ภายใต้ปฏิบัติการ “ฉลองเทศกาลปีใหม่ ปลอดภัยจากยาเสพติด” ในห้วงวันที่ 16 ธ.ค.62 - 4 ม.ค.63 ว่า ป.ป.ส. ร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับยาเสพติดแก่ประชาชน ท่องเที่ยวปลอดภัยไม่ใช้ยาเสพติด ไม่รับฝากสิ่งของจากคนแปลกหน้า และการร้องเรียนยาเสพติดผ่านสายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 รวมทั้งดำเนินการสุ่มตรวจปัสสาวะและวัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ ตรวจสัมภาระต้องสงสัยในพื้นที่สถานีขนส่งจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

"จากข้อมูลของศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนในช่วงปีใหม่ พบว่า มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุ 3,421 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 3,499 คน และผู้เสียชีวิต 373 คน สาเหตุอุบัติเหตุสูงสุด คือ ขับรถเร็ว และยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดในปีนี้เกิดจากรถส่วนบุคคล คือ รถจักรยานยนต์ และไม่พบว่ามีอุบัติเหตุที่เกิดจากรถโดยสารสาธารณะเหมือนปีที่ผ่านมา ส่วนผู้ขับรถโดยสารเมื่อตรวจเจอสารเสพติดในร่างกาย แม้ผู้ขับรถโดยสารจะอ้างว่าไม่ได้เสพยาเสพติดแต่กินยาแก้หวัด ก็จะประสานกับขนส่งไม่อนุญาตให้ขับรถต่อ เพราะแม้จะกินยาแก้หวัดก็ทำให้ง่วงนอน ทำให้ขับรถเกิดอุบัติเหตุได้"

นายนิยม เผยอีกว่า ในปีนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินการลงพื้นที่สถานีขนส่ง เพื่อสุ่มตรวจปัสสาวะและวัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ พร้อมตรวจสัมภาระต้องสงสัยในพื้นที่สถานีขนส่ง รวมทั้งสิ้น 28 แห่ง ประกอบด้วย สถานีขนส่งและจุดจอดรถ 18 แห่ง สถานีรถไฟ 3 แห่ง และสถานประกอบการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ 7 แห่ง พบของกลาง พืชกระท่อม 88.1 กิโลกรัม นอกจากนี้ดำเนินการสุ่มตรวจหาสารเสพติดของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะและพนักงานประจำรถ 2,979 ราย พบสารเสพติด 8 ราย จึงได้นำตัวส่งเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาระบบสมัครใจ 7 ราย และส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย 1 ราย ส่งผลให้ไม่เกิดอุบัติเหตุจากการขับรถ ถือเป็นความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่ตรวจเข้มในครั้งนี้

นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนประชาชนในหมู่บ้านชุมชน โรงเรียน ศูนย์การเรียนรู้ดำเนินกิจกรรมป้องกันยาเสพติด เพื่อรับทราบข้อมูลข่าวสารการแพร่ระบาดยาเสพติด พร้อมทั้งจัดกิจกรรมที่ผสมผสานกับประเพณีท้องถิ่น 8 แห่ง เพื่อร่วมสร้างพื้นที่ปลอดภัยห่างไกลยาเสพติด

นายนิยม เผยต่อว่า ผลการดำเนินงานภาพรวมในปีนี้ ถือว่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน ตลอดจนสามารถสร้างการรับรู้และความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลได้ และแม้จะผ่านช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว สำนักงาน ป.ป.ส. ก็ยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งช่วยสอดส่องดูแล และป้องกันไม่ให้พนักงานดื่มสุราหรือเสพยาเสพติดขณะปฏิบัติหน้าที่ขับรถ หากพบว่าผู้ประกอบการขนส่งผู้ใดฝ่าฝืนหรือยินยอมให้พนักงานขับรถโดยสารปฏิบัติหน้าที่ขับรถ ต้องจำคุก 2 ปี หรือปรับ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำรถเสพยาเสพติดต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนด แต่ถ้าเป็นผู้ขับรถโดยสารต้องระวางโทษสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และฝากถึงประชาชนทุกคน ขอความร่วมมือร่วมกันสอดส่องเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สามารถแจ้ง ได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง