สองตายายและหลานขับซาเล้งถูกรถเก๋งชนเสียชีวิต 3 ราย เบื้องต้นคนขับเก๋งอ้างหลับใน ขณะรถซาเล้งวิ่งสวนทางกันมาถูกชนพังยับ
วันนี้( 21 .ค.)เมื่อเวลา 14.30 น. ร.ต.อ.พงศ์ภรณ์ เลิศรัตน์ ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคลองห้าได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถซาเล้งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย เหตุเกิดบริเวณถนนเลียบคลองห้ามุ่ง หน้าคลองระพีพัฒน์ (ก่อนถึงสนามกอล์ฟอัมไพร์คลองห้า )หมู่ที่ 9 ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งเหตุ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลคลองหลวง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 2 กส 7836 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ชนติดอยู่กับเสาไฟฟ้าข้างทาง และมีซาเล้งพ่วงติดอยู่บริเวณหน้ารถ เป็นรถจักรยานยนต์ แบบพ่วงข้าง (ซาเล้งพ่วงข้าง ) ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 สีแดงหมายเลขทะเบียน กนว 286 อ่างทอง พังยับเยิน ทำให้ชิ้นส่วนกระจัดกระจายเต็มถนน และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย และทราบชื่อต่อมาคือนายสมพร เจริญศรีลา อายุ 62 ปี คนขับรถซาเล้ง) อยู่บ้านเลขที่ 40/2 3467 หมู่ที่ 4 ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และนางทองใบ เจริญศรีลาอายุ 59 ปี และเด็กชายภูริพัฒน์ คงสมใจอายุ 6 ขวบ รวมทั้งหมด 3 ราย โดยมีนายประพันธ์ มโนเย็น อายุ 23 ปี เดิมอยู่บ้านเลขที่ 200/2203 หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี(คนขับรถยนต์เก๋งยืนเจ้าหน้าที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ) และมีผู้บาดเจ็บที่นั่งมาในรถอีก 2 คน เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลคลองหลวงไปก่อนหน้านี้
จากการสอบถาม นายประพันธ์ มโนเย็น อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 200/2203 หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านใหม่อำเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี คนขับรถเก๋ง ให้การว่าบอกว่า ตนเองมาจากย่านวัดเทียนถวาย เมืองปทุมธานี และกำลังจะไปหาญาติๆที่คลองห้า อำเภอคลองหลวง เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ตนเองไม่รู้ว่าเป็นอะไร เหมือนกับจะหลับใน จากนั้นก็มีรถเสียงดังโครมตกใจตื่น ก็พบว่ามีบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตแล้ว จึงให้ชาวบ้านโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
ด้าน ร.ต.อ.พงศ์ภรณ์ เลิศรัตน์ ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคลองห้า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ร่วมชันสูตรพลิกศพพร้อมกับแพทย์เวร และบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้เชิญนายประพันธ์ มโนเย็น อายุ 23 ปี คนขับรถเก๋งไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่รถเก๋ง ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ พบว่าเป็น 0% ส่วนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย มอบให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่างส่งชันสูตร ยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ (เฉลิมพระเกียรติ) เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง และจะได้ประสานทางญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
