MGR Online - ผบ.ตร.รับ “สมคิด พุ่มพวง” ฉลาด แต่แพ้ทางตำรวจจนถูกตามรวบได้ เช่นเดียวกับอดีตผู้การกองปราบฯ ที่เคยเป็นหัวหน้าชุดจับกุมเมื่อปี 2548 ระบุ “สมคิด” เป็นพวกจิตเภท เคยสารภาพกับชุดจับกุมในอดีตว่ามีความสุขทุกครั้งที่ได้บีบคอเหยื่อ แนะไม่ควรปล่อยให้ออกมาอยู่ร่วมกับสังคมภายนอก
วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวภายหลังมีการจับกุมนายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่องที่เพิ่งพ้นโทษและก่อเหตุซ้ำฆาตกรรมหญิงในพื้นที่อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ได้ว่า ยืนยันว่าตั้งแต่เกิดเหตุได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามจับกุมนายสมคิดมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งทราบว่าเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาชุดจับกุมสามารถควบคุมตัวนายสมคิดได้ขณะเดินทางโดยรถไฟ ที่สถานีปากช่อง จ.นครราชสีมา ขณะนั่งรถไฟจาก จ.สุรินทร์ มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร
“คดีนี้ไม่มีอะไร เราจับเขามาตั้งแต่ปี 2548 ยอมรับว่าเขาเป็นคนฉลาด แต่ก็แพ้ทางตำรวจอยู่แล้ว” ผบ.ตร.ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นหนึ่งในชุดคลี่คลายคดีและสามารถจับกุมนายสมคิดเมื่อปี 2548 ขณะดำรงตำแหน่งรอง ผบก.ป.
ด้าน พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร. เปิดใจในฐานะอดีตหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีนายสมคิด พุ่มพวง ว่าเมื่อปี 2548 ในขณะที่ตนเองดำรงตำแหน่ง ผบก.ป.ขณะนั้น พ.ต.อ.ปรีชา เจริญทรัพย์ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) โทรศัพท์มารายงานว่าเกิดเหตุฆาตกรรมในพื้นที่มีลักษณะคล้ายกับคดีในพื้นที่ภาคอีสานอีก 1-2 ราย อยากให้กองปราบปรามเข้าไปช่วยคลี่คลายคดี การสืบสวนจับกุมใช้หลักการพื้นฐานกล้องวงจรปิด การติดต่อสื่อสาร และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยขณะนั้นสืบทราบว่านายสมคิดมีภรรยาอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ จึงตามไปจับกุมตัวไว้ได้ที่บ้านภรรยา
พล.ต.อ.วินัยกล่าวว่า นายสมคิดเป็นคนมีความฉลาดและมีความรู้ พฤติกรรมเดิมเคยให้การเป็นพยานเท็จในคดีผู้พันตึ๋ง นายสมคิดโทรศัพท์ไปบอกช่องข่าวว่าทราบตัวคนร้าย เป็นลักษณะสร้างความสำคัญ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่กองปราบปรามจับกุมในข้อหาให้การเท็จ ในขณะที่ติดคุกอยู่ก็ยังเขียนจดหมายส่งไปถึงภรรยาของญาติผู้ที่ถูกยิงตายในบ่อบำบัดน้ำเสียราชาเทวะ
“นายสมคิดจะมีความคิดที่ต่างจากบุคคลธรรมดา แต่ไม่ได้บ้าหรือวิกลจริต แต่เป็นโรคจิตเภท ถ้าได้ไปกระทำต่อเหยื่อมันทำให้เกิดความสุข ซึ่งเป็นจิตเภทอย่างหนึ่งที่เรียกว่าฆาตกรรมต่อเนื่อง ไม่ได้มีอาการวิกลจริต จึงสามารถดำเนินคดีได้ เพราะทุกครั้งที่ก่อเหตุมีสติเหมือนคนปกติ” พล.ต.อ.วินัยกล่าว
พล.ต.อ.วินัยกล่าวอีกว่า การก่อเหตุของนายสมคิดไม่ได้ถึงกับมีการวางแผนซับซ้อนแต่อย่างใด แต่เนื่องจากนายสมคิดเป็นโรคจิตเภท เมื่อนายสมคิดถูกจับกุมแล้วก็ไม่ควรถูกปล่อยให้ออกมาอยู่ในสังคมภายนอก เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาก่อเหตุกับคนอื่นอีก เพราะเท่าที่เคยสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญทราบว่าโรคจิตเภทที่นายสมคิดป่วยนั้นไม่สามารถรักษาได้ เพราะตอนที่ถูกจับกุมเมื่อปี 2548 เขาเคยพูดกับชุดจับกุมว่ามีความสุขทุกครั้งที่ได้บีบคอเหยื่อ