MGR online - บช.น.โดย 191 แถลงจับ"กุ๊ก อินทะ"เอเยนต์ค้าไอซ์ย่านเกษตรนวมินทร์ ยึดของกลาง 64 กก. อีกคดีจับพ่อค้าปืนออนไลน์ หลังติดตามสืบสวนนานกว่า 6 เดือน จนล่อซื้อและจับกุมได้กลางขนส่งหมอชิต
วันนี้ (10 ธ.ค.) ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 (บก.สปพ.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เพตรา ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี,พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจฯ ร่วมแถลงการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด รวมยึดของกลาง ไอซ์ 64 กก. ยาบ้า 42 เม็ด อาวุธปืน 10 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 9 นัด และ รถยนต์อีก 1 คัน
โดยคดีแรกจับกุมนายชัยณรงค์ หรือกุ๊ก อินทะ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดี “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย” จับกุมได้หน้าชุมชนแออัดซอยเสนานิเวศน์ 120/3 ถนนเสนานิคม 1 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ หลังชุดจับกุมขยายผลจากคดีที่มีกลุ่มวัยรุ่นลักลอบขนลำเลียงยาเสพติด หน้าถนนอิสรภาพ ซึ่งจับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 1 แสนเม็ด จนทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดที่ลักลอบจำหน่ายยาให้กับลูกค้าย่านเกษตรนวมินทร์ และย่านอาร์ซีเอพระรามเก้า ซึ่งจะซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในรถยนต์ฮอนด้าซีอาร์วี ทะเบียน 8 กด 3753 กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนและพบรถยนต์ต้องสงสัยมาจอดภายในชุมชนแออัดดังกล่าว เมื่อตรวจค้น พบนายชัยณรงค์ และมีไอซ์ หนัก 64 กิโลกรัมซุกซ่อนภายใน จึงคุมตัวพร้อมของกลางดำเนินคดี ก่อนขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนคดีที่สองจับกุมนายสุรัติ เสี่ยงตรง ผู้ต้องหาคดี “มีอาวุธปืนและเครื่องศูนย์ปืนครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต มีหรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมยึดอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 รวม 9 กระบอก จับกุมได้ในลานจอดรถจักรยานยนต์ในสถานีขนส่งหมอชิต แขวงบางซื่อ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
โดยคดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 1 พบการซื้อขายอาวุธปืนผ่านทางไลน์ ก่อนนัดหมายสถานที่รับสินค้า จึงสืบสวนนานกว่า 6 เดือน จนทราบว่าผู้ค้าคือ นายสุรัติ เจ้าหน้าที่จึงตกลงซื้อขายและนัดส่งที่สถานีขนส่งหมอชิตดังกล่าว ต่อมาพบนายสุรัตน์ ขี่จักรยานยนต์ฮอนด้าฟอร์ซ่า ป้ายทะเบียน กทม.เข้ามายังลานจอดรถพร้อมหยิบถุงอาวุธปืนออกมาจากใต้เบาะจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นและยึดปืนดังกล่าว
สอบสวนนายสุรัติ ยอมรับว่า ซื้ออาวุธปืนมาในราคากระบอกละ 3,500 บาท ก่อนนำมาขายราคากระบอกละ 5,500 บาท ซึ่งได้ซื้อขายอาวุธปืนไทยประดิษฐ์มากว่า 2 ปี รวมอาวุธปืนประมาณ 100 กระบอก ทั้งปืนที่ใช้กระสุนลูกซอง และกระสุน 0.38 โดยนายสุริต รับอีกว่า ที่บ้านพักมีถังสำหรับทดสอบยิงปืน เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบก็พบของกลางเป็นถังทดสอบยิงอยู่ในสภาพดี ภายในบุด้วยผ้า จึงจับกุมพร้อมนำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน
สำหรับอาวุธปืนดังกล่าวนั้นมาจากผู้ผลิตรายเดียวกัน เนื่องจากอาวุธปืนแต่ละกระบอกมีลักษณะเฉพาะที่ใกล้เคียงกัน ทั้งลายไม้ที่ด้ามจับ ลักษณะลำกล้อง ซึ่งเป็นผู้ผลิตที่ตำรวจติดตามตัวมาตั้งแต่ช่วงการกวาดล้างจับกุมอาวุธปืนออนไลน์ก่อนหน้านี้ที่ จ.นครสวรรค์ โดยปืนดังกล่าวมีต้นตอแหล่งผลิตมาจาก จ.อุทัยธานี และถือว่าเป็นปืนที่มีสามารถใช้ก่อเหตุได้ แต่อาจเกิดอันตรายจากลำกล้องแตกหรือแรงสะท้อน ขณะที่ผู้สั่งซื้อ เป็นบุคคลทั่วไปและกลุ่มวัยรุ่น
ทั้งนี้ นายสุรัติ เพิ่งพ้นโทษคดีครอบครองและเสพยาเสพติดเมื่อปี 2560 ก่อนมารับงานขนยาเสพติด โดยจะได้ค่าขนส่งครั้งละ 60,000 บาท ทั้งยังรับว่าทำมาแล้วประมาณ 6 ครั้ง