รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ตอน รวมพลังคนสีส้ม“อยู่ ไม่เป็น” ก่อนถึงวันตัดสินชะตา “ธนาธร”
นับถอยหลัง ใกล้ถึงวัน Judgment day ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยคดีที่กกต.ยื่นคำร้องให้ ตัดสิทธิการเป็นส.ส.ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในวันพุธที่ 20พ.ย.
ความเคลื่อนไหวจากฝั่งพรรคส้มหวาน ที่กำลังถูกพูดถึงตอนนี้ก็คือ กิจกรรมในวันเสาร์นี้ 16 พ.ย. ที่พรรคอนาคตใหม่โหมโรง ยิงแคมเปญ “อยู่ ไม่ เป็น” ซึ่งก็คือ
กิจกรรมที่แกนนำพรรค ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค จะพบปะกับ กองเชียร์พรรค ที่ JJ Mall ชั้น 6 ตรงข้ามสวนจตุจักร ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงเย็น
พูดอีกทางหนึ่งก็คือการแสดงพลัง ของพรรคอนาคตใหม่ ให้ปรากฏให้สังคมเห็น ในช่วงนับถอยหลัง ก่อนถึงวันศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตา ธนาธร ในอีก 4วันถัดไปนั่นเอง
คำถามจึงมีว่า จะมีผลใดๆ ต่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่? คงตอบได้ว่า ไม่มีแน่นอน เพราะลำพังกับแค่กิจกรรมการเมือง”อยู่ ไม่เป็น”แค่นี้ ย่อมไม่สามารถสร้างแรงกดดันการตัดสินคดีของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ ได้
เพราะทั้งหมดล้วนผ่านร้อนมาหนาวมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเจอปาระเบิดและยิงเอ็ม 79 ใส่บ้านพักตุลาการศาลรธน.บางคนอย่าง จรัญ ภักดีธนากุล
หรือโดนยิงเอ็ม 79 ใส่ตึกที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญสมัยอยู่ที่ย่านพาหุรัด และโดนปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ให้เข้าไปตัดสินคดี
ตุลาการศาลรธน.ชุดนี้ ล้วนเจอมาหมดแล้ว ดังนั้น แค่กิจกรรม “อยู่ ไม่เป็น”ของพรรคอนาคตใหม่ จึงเป็นแค่เรื่องจิ๊บจิ๊บ ส่วน ธนาธร จะรอดหรือไม่รอด ก็รอฟังผลกัน พุธหน้า 20 พ.ย.
จบจากคดีธนาธร 20 พ.ย.นี้แล้ว หลังจากนี้เป็นต้นไป จนถึงช่วงไม่เกินกลางเดือนหน้า ธันวาคม ให้จับตากันให้ดี เพราะคดีสำคัญๆ ที่อยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ที่รับคำร้องไว้พิจารณา ก็จะรู้ผลกันแล้ว
ไม่ว่า จะเป็นคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ที่นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากมีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 92
หรือคดีถือหุ้นสื่อก่อนการเลือกตั้ง ที่ร้องกันนัวเนียระหว่างพรรครัฐบาลกับฝ่ายค้าน ที่สรุปได้ว่า ศาลรธน.รับคำร้องไต่สวน ส.ส.รัฐบาล รวม 32 คน ส่วนฝ่ายค้าน ก็โดนไป 32 คนเช่นกัน รวมเป็น 64 คน
สาเหตุที่บอกว่าคดีสำคัญๆ อย่างสองคดีข้างต้น จะถึงฉากจบสุดท้าย ได้รู้กันว่า ศาลรัฐธรรนูญจะตัดสินแบบไหน
ก็ด้วยเหตุว่า ตุลาการศาล รธน.ชุดปัจจุบัน มี5 ชื่อที่จะต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะครบวาระ อันประกอบด้วยอาทิเช่น นุรักษ์ มาประณีต ประธานศาล รธน., ชัช ชลวร อดีตประธานศาล รธน.,จรัญ ภักดีธนากุล เป็นต้น
ที่ผ่านมา ก็มีการรับสมัคร คัดเลือก จนได้ห้ารายชื่อ ส่งไปยังวุฒิสภาให้ลงมติ เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ เพื่อให้เข้าไปเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่ แทนห้าคนที่กำลังนับถอยหลัง รอลุกจากตำแหน่ง
ห้าชื่อใหม่ ประกอบด้วยใครบ้าง แยกเป็น สามชื่อซึ่งศาลฎีกาเลือกและส่งไปให้วุฒิสภา คือ อุดม สิทธิวิรัชธรรม ประธานแผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกาในศาลฎีกา, วิรุฬห์ แสงเทียน ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และ จิรนิติ หะวานนท์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา
ขณะที่ อีก 2 ชื่อ แยกเป็นมาจากกรรมการสรรหาฯ เลือกมาคือ นภดล เทพพิทักษ์ อดีตทูตฯ และชื่อสุดท้าย มาจากศาลปกครองสูงสุดคือ ชั่งทอง โอภาสศิริวิทย์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
โดยที่ประชุมวุฒิสภาประชุมมีมติตั้งกรรมาธิการสอบประวัติฯ เมื่อ 2กันยายน มีพลเอกอู้ด เบื้องบน เป็นประธาน ซึ่งถึงขณะนี้ก็กินเวลามาเกือบสามเดือนแล้ว กรรมาธิการมีการขอให้ที่ประชุมวุฒิสภาขยายเวลาให้มาแล้วหนึ่งรอบ
แต่ผลสอบประวัติที่กรรมาธิการสอบทั้งในทางเปิดเผยและในทางลับ ให้ที่ประชุมวุฒิสภา ทราบและลงมติ เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ภายในไม่เกินกลางเดือนหน้า คือ ไม่เกิน15ธันวาคมนี้
เดทไลน์ดังกล่าว ทำให้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบันห้าคนที่จะหมดวาระลง ต้องเร่งปิดสำนวน ที่ค้างอยู่อย่างคดียุบพรรคอนาคตใหม่ –คดีถือหุ้นสื่อของส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้านให้จบโดยเร็ว
เพื่อไม่ให้สำนวนคั่งค้างในช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งจะไม่เป็นผลดี ทำให้การพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ที่อาจเกิดปัญหาข้อกฎหมายได้
รวมถึงคำร้องอื่นๆ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับไว้ก่อนหน้านี้เช่น คำร้องที่ประธานสภาฯ ขอให้ วินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กรณีส.ส.ฝ่ายค้านยื่นคำร้อง
หลังจากที่นายสิระไปวางอำนาจโอเวอร์แอคชั่นใส่ตำรวจ ที่จ. ภูเก็ต ไปตรวจเรื่องการออกเอกสารสิทธิฯ ที่เคยเป็นข่าวครึกโครม
เหล่านี้ ก็คาดว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบัน กำลังเร่งเคลียร์สำนวนคั่งค้างให้จบโดยเร็ว โดยเฉพาะคดียุบพรรคอนาคตใหม่กับคดีส.ส.ถือหุ้นสื่อที่รับไว้นานแล้ว
จึงต้องจับตากันให้ดี นับจากนี้ไปจนถึงช่วงปลายเดือนธันวาคม ทุกคดีในศาลรธน. จะปิดบัญชีหมด เว้นเสียแต่เกิดกรณีไม่คาดคิด ทำให้การเห็นชอบตุลาการศาลรธน.ทั้งหมดของวุฒิสภา ล่าช้าออกไป