MGR online - ศปก.ตร.แถลงพอใจผลงานปราบเด็กแว้นทุกกอง บช.ภ.1-9 ได้ผลดี หลังวางมาตรการจัดสายตรวจโซเชียลฯ เป็นโมเดล จับนักซิ่งกระจอก เผย สถิติจับกุมลดลงอย่างมาก
วันนี้ (7 พ.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานจราจร ประชุมศูนย์ป้องกันและปราบปรามแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ภาพรวมการแก้ปัญหาการแข่งรถในทาง เป็นที่น่าพอใจ โดยมีสถิติการจับกุมผู้กระทำผิดและการร้องเรียนของประชาชนลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ทุกท้องที่เข้มงวดและปราบปรามต่อเนื่อง โดยให้ทุก ภ.จว.มีการจัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามแข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ผ่านมา จังหวัดนครราชสีมา มีการแก้ปัญหาเป็นที่น่าพอใจมาก จึงให้ทุกจังหวัดใช้โมเดลเดียวกับจังหวัดนครราชสีมา
“ในการปฏิบัติให้มีการเน้นตั้งด่านตรวจและบูรณาการกับฝ่ายสืบสวนที่หาข้อมูล รวมถึงจัดชุดปะฉะดะเข้าตรวจตราทันทีในพื้นที่จุดเสี่ยง รวมทั้งมีสายตรวจโซเชียลฯ เจาะข้อมูลเพจเฟซบุ๊ก กรุ๊ปไลน์ นัดแข่งรถ จึงจะนำมาเป็นโมเดลดังกล่าวให้แต่ละจังหวัดดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาให้หมดสิ้นอย่างถาวร สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยอมรับว่า การแก้ไขปัญหาทำได้ยาก เพราะเป็นพื้นที่รอยต่อกับปริมณฑลและเป็นพื้นที่กว้าง แต่ตำรวจก็สามารถแก้ปัญหาจนขณะนี้มีการร้องเรียนลดลง สามารถควบคุมได้” ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวและว่า ตำรวจยังบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดทุกกรณี โดยเน้นย้ำในช่วงเทศกาลลอยกระทงและช่วงปลายปีซี่งจะมีการรื่นเริงต่อเนื่องถึงเทศกาลปีใหม่ จะเพิ่มความเข้มการปฎิบัติการเชิงรุกให้มากขึ้น
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับสถิติการจับกุม ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน-27 ตุลาคม สามารถจับกมผู้กระทำผิดแข่งในทางได้ 1,157 ราย ดำเนินคดีผู้ปกครอง ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก 225 ราย ทำทัณฑ์บนผู้ปกครอง 19,331 ราย ดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.รถยนต์ จำนวน 357,070 ราย ยึดรถยนต์ 1,180 คัน ยึดรถจักรยานยนต์ 86,354 คัน ส่วนมาตรการที่ให้ประชาชนแจ้งเบาะแส พร้อมรับเงินรางวัลนำจับ มีผู้แจ้งเบาะแสผ้านช่องทางต่างๆ จำนวน 1,172 ราย แต่เข้าหลักเกณฑ์ จำนวน 37 ราย เบิกจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้แจ้งเบาะแสแล้ว จำนวน 8 ราย เป็นเงิน 24,000 บาท, อยู่ระหว่างดำเนินการทางเอกสาร จำนวน 5 ราย และอยู่ระหว่างการติดตามเบาะแส จำนวน 24 ราย โดยหากประชาชนพบเบาะแสผู้แข่งรถในทาง สามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 และหากมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอสามารถส่งมาได้ที่ศูนย์โซเชียลมีเดียสำนักงานตำรวจแห่งชาติ