MGR Online - สาวไทยกลับจากออสเตรเลีย โร่ร้องดีเอสไอ ถูกคนไทยด้วยกันหลอกให้ลงทุนเงินออมได้ผลกำไรงาม สุดท้ายชิ่งหนี มีผู้เสียหายจำนวนมากสูญเงินรวมกันประมาณ 50 ล้านบาท เจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปแจ้งความที่กองปราบปราม
วันนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 11.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) น.ส.พิมพ์ลดา (สงวนนามสกุล) เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อเอาผิด น.ส.เพียงตะวัน สมพินิจ ชักชวนผ่านทางเฟซบุ๊กให้คนไทย และนักศึกษาไทยในออสเตรเลีย กว่า 250 คน ร่วมลงทุนด้วยการนำเงินมาฝากไว้ พร้อมยื่นข้อเสนอว่าจะให้ดอกเบี้ยเป็นรายสัปดาห์ รวมทั้งมีพฤติกรรมการรับโอนเงินสกุลต่างประเทศในเรตที่สูงกว่าธนาคาร แต่สุดท้ายหลบหนี จนทำให้มีมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เสียหายบางส่วนได้ไปขอความช่วยเหลือจากสถานกุงศลไทยในซิดนีย์ และตำรวจออสเตรเลียแล้ว
น.ส.พิมพ์ลดากล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกันยายน 2560 ตนพักอาศัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ได้มี น.ส.เพียงตะวันทักทายผ่านอินบอกซ์เฟซบุ๊กชักชวนลงทุนเงินออม พร้อมทั้งมีกิจกรรมแจกทองและของแบรนด์เนม เมื่อตนหลงเชื่อก็จะเชิญเข้าในกรุ๊ปไลน์ซึ่งขณะนั้นมีสมาชิกอยู่ประมาณ 300 ราย โดยครั้งแรกได้ลงทุนครั้งแรก 2,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ภายใน 3 เดือนได้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนจำนวนเงิน 4,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ต่อมาเดือนมกราคม 2561 ตนตัดสินลงทุนครั้งที่ 2 เป็นเงิน 20,000 เหรียญ หรือเกือบ 5 แสนบาท และต้องได้รับดอกเบี้ยคืน 30,500 เหรียญ ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือกว่า 7 แสนบาท แต่เมื่อทวงถามเงินจำนวนดังกล่าว น.ส.เพียงตะวันอ้างว่าขาดสภาพคล่องทางการเงิน และจะยอมคืนเงินให้ 500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ทุกสัปดาห์จนกว่าจะหมด ปรากฏว่าตนได้รับเงินคืนเพียง 500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย แค่สัปดาห์เดียว ก็ไม่ได้รับเงินคืนจาก น.ส.เพียงตะวันอีกเลย ตนลงทุนไปทั้งสิ้นกว่า 800,000 บาท
“เมื่อดิฉันติดต่อสอบถาม น.ส.เพียงตะวันจะบ่ายเบี่ยงและสอบถามย้ำบ่อยครั้งก็โดนไล่ออกจากกลุ่มไลน์ โดยทราบว่ามีผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวถูกกระทำลักษณะแบบเดียวกันหลายราย จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมาดิฉันจำเป็นต้องต่อวีซ่าที่ประเทศไทยจึงได้มีโอกาสเข้าร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ โดยทางดีเอสไอได้แนะนำให้ไปยื่นเรื่องที่กองบังคับการปราบปรามก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีผู้เสียหายที่อยู่ในประเทศออสเตรเลียได้แจ้งความที่สถานีตำรวจ และสถานทูตไทยประจำประเทศออสเตรเลีย ซึ่งสถานทูตได้รับเรื่องไว้แล้ว ขอฝากถึงประชาชนว่าการลงทุนออนไลน์นั้นเชื่อถือไม่ได้ หากถูกหลอกลวงขึ้นมาโอกาสได้คืนน้อยมาก”