MGR online - “รมว.ยธ.” ขอพิจารณาสอบเอกสารคดีแชร์ Forex-3D อีก 2 วัน เพื่อให้ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ หรือไม่ ยันคดีนี้มีความซับซ้อนมากกว่าคดีแชร์แม่มณี
วันนี้ (7 พ.ย.) ณ บริเวณด้านหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข ชั้น 2 กระทรวงยุติธรรม อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเรื่องร้องเรียนจาก ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และ ตัวแทนผู้เสียหายคดีแชร์ Forex-3D ประมาณ 20 คน เพื่อขอ ให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผู้เสียหายคดีแชร์ Forex-3D มีลักษณะคล้ายกับคดีแชร์ลูกโซ่อื่น แต่มีความซับซ้อนมากกว่าคดีแชร์แม่มณี พร้อมทั้งมีการโฆษณาในหลายช่องทางให้เห็นถึงการลงทุน รวม 5 แพกเกจ จากผลตอบแทนต่ำสุดถึงมากสุด คือ บรอนซ์ ซิลเวอร์ โกลด์ แพลตินัม และ ไดมอนด์ โดยส่วนใหญ่ประชาชนจะลงทุนระดับบรอนซ์ ประมาณ 60,000 บาท ใช้เวลา 20 วัน ได้รับเงินปันผล 164 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ส่วนระดับไดมอนด์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,200,000 บาท ให้ผลตอบแทน 4,308 เปอร์เซ็นต์ต่อปี นับเป็นไปไม่ได้ที่ผลกำไรตอบแทนกลับคืนมาสูงเกินความเป็นจริง ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนดคือ 6.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
“ทั้งนี้ ดีเอสไอ กำลังพิจารณาแล้วว่าคดีแชร์ Forex-3D มีการเทรดซื้อขายเงินตราระหว่างประเทศจริงหรือไม่ ถ้าไม่เป็นความจริงจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน แต่หากจริงต้องตรวจสอบมีใบอนุญาตเทรดซื้อขายถูกต้องหรือไม่ เบื้องต้นได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเรื่องเอกสาร คาดว่า จะมีความชัดเจนภายใน 2 วัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้เสียหายที่ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ของดีเอสไอ แล้วจำนวน 2,080 ราย มูลค่าความเสียหาย 411 ล้านบาท พร้อมประสาน ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด”
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหาย ว่า ได้รับเงินปันผลตอบแทนและมีการซื้อขายในต่างประเทศจริงหรือไม่ โดยยอมรับว่าลักษณะคดีแชร์ที่เกิดขึ้นมีความคล้ายคลึงกัน เช่น 1. จ่ายเงินปันผลสูงมากกว่าปกติ 2. หลอกว่ามีบริการหรือสินค้าต่างๆ และ 3. มีการชักชวนสมาชิกเพิ่มต่อยอดไปเรื่อย
ขณะที่ น.ส.วราไพรินทร์ ธนวริสพร หรือ อาย ดารานักแสดง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองลงทุนประมาณ 1.7 ล้านบาท โดยตัดสินใจนำเงินมาร่วมลงทุนเมื่อปลายปี 2561 จากการถูกชักชวนโดยเพื่อนสนิทของเจ้าของบริษัท อีกทั้งเมื่อตรวจสอบพบว่ามีความน่าเชื่อถือ เพราะมีการร่างสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร เซ็นเอกสารครบถ้วน ซึ่งภายหลังจากร่วมลงทุนไปก็ได้ผลตอบแทนเดือนละร้อยละ 5-10 แต่เมื่อช่วงประมานเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ไม่สามารถติดต่อเจ้าของบริษัทได้ และพบว่าเริ่มมีการขายทรัพย์สินภายในบ้าน และขายรถหรูบางส่วน รวมถึงตัวเจ้าของบริษัทก็ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว จึงรู้สึกไม่ปกติ
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีเพื่อนนักแสดงอีกหลายคนที่ตกเป็นผู้เสียหาย แต่ไม่ขอเปิดเผยข้อมูล และพบว่ามีบางคนที่ได้รับการติดต่อจากเจ้าของบริษัทขอไม่ให้มาแจ้งความดำเนินคดี โดยบอกว่าพร้อมจะคืนเงิน ซึ่งผู้เสียหายคนดังกล่าวลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาท