ข่าวลึกปมลับ : คืนความเป็นธรรมให้สีกากี แต่งตั้งนายพัน ตร.รอพิสูจน์

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562 ตอน คืนความเป็นธรรมให้สีกากี แต่งตั้งนายพัน ตร.รอพิสูจน์



การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับนายพัน ประจำปีนี้ ซึ่งจะเริ่มคืนความเป็นธรรมให้แก่ตำรวจ หลังจากที่ถูกปล้นไปนาน เวลานี้มีความเคลื่อนไหวล่าสุดคือ ได้มีหนังสือเวียนถึงผบช.ทุกหน่วยของ "บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ให้ทุกหน่วยเร่งทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย ระดับ สารวัตร(สว.) - รองผู้บังคับการ (รองผบก.) วาระประจำปี 2562 พร้อมทั้งกำหนดไทม์ไลน์อย่างชัดเจน

ถือว่า หนังสือผบ. ตร. เป็นสิ่งบ่งชี้และคอนเฟิร์มแล้วว่า การแต่งตั้งรอบนี้ตรงเวลาเป๊ะแน่นอน ไม่มีการเลื่อน หรือ ขยายเวลาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

โดยผบ.ตร.ขีดเส้นให้ทุกหน่วยต้องส่งบัญชีผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นภายในวันที่ 29 ตุลาคม ส่งข้อมูลการแต่งตั้งวันที่ 14 พฤศจิกายน ทำบัญชีแต่งตั้งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 พฤศจิกายน

และออกคำสั่งแต่งตั้งวันที่ 27 พฤศจิกายน มีผลพร้อมกันในวันที่ 2 ธันวาคม

ดังนั้น อีกด้านหนึ่งหนังสือเวียนฉบับนี้ เป็นเสมือนการส่งสัญญาณปลุกบรรดานักวิ่งสีกากีให้เตรียมพร้อมว่า 30 วันหลังจากนี้ ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการจัดทัพโผสีกากี

ฉะนั้นใครมีทีเด็ดอะไรให้งัดมาใช้ได้เลย ไม่ต้องกั๊กไว้รอก๊อกสอง ก๊อกสาม เพราะประกาศิต "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับคำสั่งแต่งตั้งออกปุ๊บทุกอย่างต้องจบ

ห้ามไม่ให้มีถอนกลับ ชักเข้าชักออก หรือคำสั่งแขวนลอย ให้ช้ำใจอีก

ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจทุกระดับถูกรวมศูนย์ไว้ที่ผบ.ตร.
แต่เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา "บิ๊กแป๊ะ" ได้เซ็นคำสั่ง ตร.ที่ 297/2562 “เรื่องการมอบหมายอำนาจการสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ"

คืนอำนาจให้ระดับผู้บัญชาการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผกก.-ผู้บังคับหมู่ ซึ่งหมายความว่าในวาระการแต่งตั้ง สว.-รอง ผบก. วาระประจำปี 2562 นี้ ในส่วนของตำแหน่งรอง ผกก.-สว. แต่ละ บช. ก็จะมีอำนาจในการคัดเลือก

เว้นแต่ในส่วนของ ผกก. ยังคงเป็นอำนาจของ ผบ.ตร. เหมือนเดิม

สรุปข้อสั่งการชัดๆ ของ ผบ.ตร. คือ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มอาวุโสร้อยละ 33 ให้เสนอหรือดำเนินการแต่งตั้ง เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นทุกราย เว้นแต่รายใดถูกตั้งกรรมการวินัยร้ายแรง หรือถูกดำเนินคดีอาญา

หรือพิจารณาแล้วเห็นว่า ตำรวจคนนั้นไม่มีความหมาะสมที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ด้วยเหตุผลด้านการปฏิบัติงาน โดยให้พิจารณาเสนอและดำเนินการปรับย้ายไปดำรงตำแหน่งที่มีปริมาณและคุณภาพงานน้อยลง เรียกว่าเก็บเข้าสุสานไป ไม่ให้มีอำนาจหน้าที่ให้คุณให้โทษกับสังคม

อีกข้อที่น่าสนใจ คือผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีดำรวจระดับ ผกก. เมื่อดำรงตำแหน่งเดียวติดต่อกันครบ 4 ปี ให้เสนอแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งอื่นทุกราย
คำสั่งข้อนี้ ดีที่ไม่ให้คนเก่านั่งแช่แผ่อิทธิพลจนกลายเป็นเจ้าพ่อมาเฟีย และเก็บส่วยรวยอยู่แล้วรวยอีก

ยังมีคำสั่งกำชับด้วยว่า ตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งในวาระประจำปี 2561 ให้ดำเนินการได้เฉพาะเท่าที่จำเป็น หากหน่วยจะเสนอแต่งตั้งให้ระบุเหตุผลความจำเป็นโดยละเอียดไปยังสำนักงานสตช. (ผ่าน ทพ.) ใน 14 พ.ย.62

สำหรับตำรวจที่มีการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 22/2558 ลง 22 ก.ค.58 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการ หรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายสถานบริการ

พวกนี้หัวขาดแน่ เพราะคำสั่งให้พิจารณาเสนอแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งอื่น นอกพื้นที่ทุกราย

ที่น่าจับตามอง ที่จะเกิดขึ้นกับการแต่งตั้งคราวนี้คือ การแก้ไขปัญหาพนักงานสอบสวนฆ่าตัวตาย หลังถูกโยกมาจากสายงานอื่น โดยเจ้าตัวไม่สมัครใจและไม่มีความถนัด ทำให้เกิดความเครียดถึงขั้นคิดสั้น

ทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ สั่งการให้ทุกหน่วยสำรวจรายชื่อตำรวจชั้นสัญญาบัตรสายงานสอบสวนในสังกัด ซึ่งได้รับการแต่งตั้งมาจากสายงานอื่น ให้สอบถามว่ามีผู้ใดสมัครใจขอรับการแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งนอกสายงาน 

ปรากฎว่ามี ผู้แจ้งความจำนงขอย้ายออกจากงานสอบสวนกว่า 100 ราย แต่ส่วนใหญ่เป็นระดับรอง สว. ซึ่งจะดำเนินการในการแต่งตั้งลำดับต่อไป ส่วนระดับสารวัตร-รองผกก. มีจำนวนไม่มากนัก คาดว่าจะได้รับการพิจารณาทุกราย

นี่เป็นเพียงมาตรการระยะสั้นเท่านั้น ส่วนในระยะกลาง และยาวแม้จะยังไม่ตกผลึก แต่แนวคิดการปัดฝุ่นฟื้นแท่งพนักงานสอบสวนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณา

แต่ทั้งหมดต้องรอประธานข้าราชการตำรวจ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไฟเขียวอีกที

นอกจากนี้ในการแต่งตั้งครั้งนี้ จะมีการพิจารณาคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ถูกโยกย้ายแบบผิดฝาผิดตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะนักสืบมือดีที่เติบโตมาจากงานสืบสวน แต่กลับต้องกระสานซ่านเซ็นไปทำงานอื่นทั้งงานธุรการ งานอำนวยการ ซึ่งไม่ใช่งานถนัด

เพียงเพราะไม่ใช่เด็กในสังกัดของผู้มีอำนาจ หากทำได้จะเป็นการฟื้นขวัญกำลังใจคนทำงาน และเป็นการวางคนให้ถูกกับงาน ซึ่งจะส่งผลดีต่อองค์กรและประชาชนในระยะยาวถ้าเป็นได้จริง