เมียวิศวกร สุดดีใจกรมคุ้มครองสิทธิฯ ยื่นมือช่วย หลังสามีดับเพราะหมอ ร.พ.ดังวินิจฉัยโรคผิด

MGR online - กรมคุ้มครองสิทธิฯ หารือช่วยเหลือ เมียวิศวกร หลังโรงพยาบาลดังวินิจฉัยโรคผิดทำให้สามีเสียชีวิต เจ้าตัวดีใจภาครัฐยื่นมือช่วยเหลือ ระบุที่ผ่านมาโรงพยาบาลคู่กรณีไม่เคยรับผิดชอบใดๆ เลย

วันนี้ (28 ต.ค.) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมไชยานุกิจ ชั้น 3 กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ศูนย์ราชการฯ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พร้อมด้วย นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นพ.สุรณรงค์ ศรีสุวรรณ ผอ.กองนิติวิทยาศาสตร์บริการ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้การต้อนรับ นางกิ่งกาญจน์ หมื่นหาญ อายุ 38 ปี ผู้เสียหาย และ นายอดิศักดิ์ อดิภาคย์ ทนายความ เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของ นายศุภชัย อธิภาคย์ อายุ 45 ปี สามี อาชีพผู้จัดการวิศวกรไฟฟ้าบริษัทเอกชน ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลแห่งหนึ่งวินิจฉัยโรคผิดจนทำให้เสียชีวิตและหารือถึงความประสงค์ในการช่วยเหลือด้านต่างๆ

นายเรืองศักดิ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก นายศุภชัย เข้ารักษาอาการป่วยเมื่อวันที่ 6 ต.ค.62 โดยแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคกระเพาะอาหารได้ฉีดยาลดกรด ให้ยาแก้กระเพาะอาหาร และยาคลายกล้ามเนื้อกลับไปกินที่บ้าน และต่อมาเสียชีวิตเวลาประมาณ 24.00 น. จากนั้นญาติได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตโดยแพทย์วินิจฉัยว่าเสียชีวิตด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ นางกิ่งกาญจน์ เห็นว่าคำวินิจฉัยโรคขัดแย้งกัน จึงแจ้งความดำเนินคดีกับแพทย์โรงพยาบาลดังกล่าว

นายเรืองศักดิ์ เผยอีกว่า ส่วน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้ติดต่อไปยังทนายเจ้าของเรื่องเพื่อสอบถามรายละเอียดเบื้องต้น ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.62 และประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนัดมาหารือกันในวันนี้ ซึ่งมีให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ดังนี้ 1.กรณีดังกล่าว สน.ประชาชื่นซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ เป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับคดี 2.การไกล่เกลี่ยกับโรงพยาบาล การประสานงานเบื้องต้นทางโรงพยาบาลยินดีเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย 3.การจัดหาอาชีพของนางกิ่งกาญจน์ ได้รับการประสานว่า ทางบริษัทฯ ที่สามีทำงานอยู่จะให้การช่วยเหลือโดยการรับเข้าทำงาน 4.การประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอรับทุนการศึกษาให้กับบุตรของนางกิ่งกาญจน์ อายุ 13 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากการประสานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 ทราบว่ามีทุนการศึกษา ซึ่งหากนางกิ่งกาญจน์ ประสงค์ขอรับทุนการศึกษาให้กับบุตร ขอให้ประสานหนังสือไปที่สำนักงานเขตพื้นที่และโรงเรียน และ 5.การประสานกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เพื่อขอผลการผ่าพิสูจน์การเสียชีวิตและความคืบหน้า อยู่ระหว่างการดำเนินการ

"นอกจากนี้ กรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้แนะนำแนวทางการขอรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ เพื่อให้ผู้เสียหายได้ทราบถึงสิทธิในการช่วยเหลือ ทั้งนี้ หากเข้าหลักเกณฑ์ของผู้เสียหายในคดีอาญา สามารถยื่นขอรับเงินค่าตอบแทนผู้เสียหายได้ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 ต่อไป" นายเรืองศักดิ์ กล่าว

ด้าน นพ.สุรณรงค์ เผยว่า ขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์จะตรวจหาสารเคมี การใช้ยารักษาโรคในร่างกาย รวมทั้ง ตรวจกระเพาะอาหารและเลือดเพื่อยืนยันความถูกต้อง โดยใช้เวลาประมาณ 60 วัน ก่อนส่งผลชันสูตรฉบับสมบูรณ์ให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดำเนินการต่อไป

ส่วน นางกิ่งกาญจน์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอบคุณ กรมคุ้มครองสิทธิฯ กระทรวงยุติธรรม ที่ยื่นมือช่วยเหลือเพราะลำพังตัวคนเดียวคงไม่สามารถเรียกร้องกับโรงพยาบาลคู่กรณีได้ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยรับผิดชอบใดๆเลย โดยในวันที่ 6 ต.ค. เวลา 20.30 น. สามีไปหาหมอ กลับบ้านมาตอน 23.00 น. และเสียชีวิตประมาณเที่ยงคืนนับเป็นเหตุการณ์ค่อนข้างเร็วมาก ทั้งนี้ สามีตนไม่สบายจึงไปหาแพทย์เพื่อรักษาแต่กลับวินิจฉัยโรคผิดจนทำให้สามีเสียชีวิต

ทางด้าน นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้เสียหายติดต่อเจรจากับทางโรงพยาบาลคู่กรณียากมากและโอกาสได้รับการเยียวยาค่อนข้างน้อย จึงอยากให้มีหน่วยงานรัฐโดยตรงที่เข้ามาช่วยเหลือคุ้มครองเหยื่อเช่นเดียวกับเหตุการณ์ดังกล่าว