ประธานชมรมเนติธรรมรักษ์ พร้อมแม่ชีคู่กรณีแถลงรับมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระทองพูน เจ้าอาวาสวัดเขาสุกิม พร้อมนำหลักฐานมอบสำนักพุทธฯ งัดหลักฐานพระอธิการทองพูน โอนเงินให้ใช้เดือนละ 1 พันบาท
จากกรณี เจ้าอาวาสวัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี ถูกพระวินยาธิการร้องต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถึงข้อพิพาทนำมวลชนขับไล่กัน และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแม่ชีรายหนึ่ง โดยเจ้าอาวาสออกมาปฏิเสธเมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) ทำให้แม่ชีผู้ถูกกล่าวถึงออกมาปรากฏตัว และยืนยันด้วยตัวเองว่า เคยคบหากันทั้งที่เป็นพระและชี แต่ถูกตัดสัมพันธ์ พร้อมมอบหลักฐานเพิ่มเติม
วันนี้ (4 ส.ค.) ที่ หมู่บ้านกรุงนนท์ ซอยสวนผัก 32 ย่านตลิ่งชัน กรุงเทพฯ พระประสิทธิ์ อตุลธัมโม อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี พร้อมด้วย นายปรเมษฐ เนติธรรมรักษ์ ประธานชมรมเนติธรรมรักษ์ และ แม่ชีคมคาย คุ้มพันธ์ ร่วมแถลงชี้แจงดังกล่าว รวมทั้งได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ มาแสดงต่อสื่อมวลชน
แม่ชีคมคาย เผยว่า เมื่อปี 2545 ตนและพระทองพูน พักและจำวัตอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ และถูกพระทองพูนบุกเข้าห้องมา เพื่อพยายามมีความสัมพันธ์กัน โดยยอมรับว่า ช่วงแรกปฏิเสธไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับพระทองพูน แต่ต่อมาสมยอมภายหลัง และคบหา ขณะครองสมณะกันจนถึงปี 2548 ก่อนพระอธิการทองพูน จะย้ายไปจำวัตรที่วัดพุเตยวนาราม จ.เพชรบูรณ์ แล้วย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาสุกิม
“ทั้งนี้ ตนเองมีหลักฐานการโอนเงินจากพระอธิการทองพูน ให้เดือนละ 1,000 บาท เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน และหลักฐานการดำเนินคดีที่ตนเองถูกญาติกับลูกศิษย์พระอธิการทองพูน ทำร้ายร่างกาย โดยศาลชั้นต้นพิพากษาไปแล้ว เพราะจำเลยรับสารภาพ ส่วนสาเหตุที่ออกมาเปิดโปงความสัมพันธ์นี้ ซึ่งตนไม่ต้องการแบล็กเมล์ แต่ทนไม่ได้ที่คณะของเจ้าอาวาสวัดเขาสุกิม ไปกล่าวหา พระประสิทธิ์ อตุลธัมโม อดีตรักษาการเจ้าอาวาส และ พระครูธรรมธร พระวินยาธิการ ว่า ร่วมกันทุจริตเงินกฐินวัดกว่า 12 ล้านบาท และใช้อำนาจปลุกระดมให้ขับไล่พระทั้ง 2 รูป”
ด้าน นายปรเมษฐ กล่าวว่า ทางชมรมฯยืนยันจะดำเนินการร้องเรียนให้ถึงที่สุด เพื่อให้สำนักพุทธฯ และคณะสงฆ์ พิจารณาโทษอย่างเร่งด่วน