ตำรวจ-ทหารร่วมจับกุม 7 ผู้ต้องหาแก๊งกาเนอร์โรชซิ่ง กับแก๊งยีราฟซิ่ง ปิดถนนนำรถกระบะมาขับแข่งประลองความเร็วกันภายในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.วินัย นุชชา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผู้กำกับการตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ทหารกองพันที่ 1 กรมทหาราบที่ 12 ได้ร่วมกันแถลงผลจับกุม 7 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1. นายธิติกร เทศน์ดี อายุ 27 ปี ขับขี่รถยนต์อีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน กธ 7119 ฉะเชิงเทรา 2. นายวงศกร สุกใส อายุ 22 ปี ขับขี่รถยนต์อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 1 ฒย 5275 กทม. 3. นายณัฐวัตร ล้วนมีเพชร อายุ 24 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะอีซูซุ สีน้ำเงินดำ ทะเบียน 4กภ 6799 กทม. 5. นายพงษ์ศักดิ์ ลาภขจรธนาเจริญ อายุ 38 ปี ผู้ขับขี่เชฟโรเลต สีขาว ทะเบียน ฒก 9305 กทม. 6. นายวัลภล ขันตะราช อายุ 27 ปี ขับขี่รถอีซูซุ สีขาว ทะเบียน 1 ฒษ 70 กทม. 7. นายศตวรรษ พันดุลัย อายุ 24 ปี ขับขี่รถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน 1 ฒผ 5328 กทม.
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดได้นำรถยนต์กระบะที่ถูกจับกุมได้มาขับแข่งประลองความเร็วกันภายในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยการปิดถนนสุวรรณภูมิสาย 4 ไปจนถึงแยกไฟแดง AMF ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น 2 แก๊ง แก๊งแรกใช้ชื่อว่า แก๊ง GARNER หรือการ์เนอร์เรซซิ่ง ส่วนแก๊งที่ 2 ใช้ชื่อว่าแก๊งยีราฟซิ่ง โดยทั้งหมดถูกตั้งข้อหา ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน มีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 มาตรา 43 (4) ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดรถยนต์กระบะทั้ง 7 คัน เอาไว้เป็นของกลางในคดีอาญา ตามคำสั่งของ คสช.ที่ 22/2558
นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดยานพาหนะตลอด 24 ชั่วโมงในถนนสายหลัก ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ ที่มีพฤติกรรมรวมกลุ่ม ส่อเจตนาแข่งขันในเขตท่าอากาศยานนั้นจะระดมกำลังเข้าจับกุมทันที ซึ่งทางสนามบินได้จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังผ่านทางกล้องวงจรปิดอย่างเข้มงวด เพราะฉะนั้น หากพบมีการรวมกลุ่มและเข้าข่ายแข่งขันในทางนั้นจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที ทั้งนี้ สนามบินสุวรรณภูมิเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ และยังถือเป็นประตูแรกสำคัญของประเทศไทย การที่พบว่ามีกลุ่มรถต่างๆ เข้ามาใช้ประลองความเร็วนั้นจะทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศไทยต่อสายตาของชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก จึงต้องมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดและฝากเตือนไปยังผู้ที่ชอบนำรถแต่งซิ่งหรือเข้าประลองความเร็วนั้นอย่าเข้ามาใช้ถนนในสนามบินสุวรรณภูมิในการแข่งขันเด็ดขาด หากถูกจับกุมได้จะถูกดำเนินคดีทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง