MGR Online - “พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล” นำกำลังเจ้าหน้าที่ลุยจัดระเบียบรถแท็กซี่ - รถตุ๊กตุ๊ก รอบพระบรมมหาราชวัง จับผู้กระทำผิดได้ 130 ราย หลังพบโก่งราคาค่าโดยสาร ซ้ำหลอกหลวงว่าพระบรมมหาราชวังปิด ชักชวนหรือข่มขู่ให้ไปซื้อสินค้า ขูดรีดนักท่องเที่ยว สั่งพักใบอนุญาต 3 เดือน ทำผิดซ้ำจะเพิกถอนทันที
วันนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พร้อมตำรวจท่องเที่ยว, กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ, ตำรวจ สน.ชนะสงคราม, สน. พระราชวัง, เทศกิจและเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมจัดระเบียบ และจับกุมผู้กระทำความผิดที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวโดยรอบพระบรมมหาราชวัง โดยสามารถจับกุมรถตุ๊กตุ๊กและรถแท็กซี่ที่กระทำผิดได้ 140 คัน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคนขับรถตุ๊กตุ๊กหลอกลวงนักท่องเที่ยวที่เดินมาเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวัง ว่า พระบรมมหาราชวังปิด เพื่อจะขายโปรแกรมนำเที่ยวและนำไปซื้อสินค้า อาทิ เครื่องประดับ ชุดสูท ล่องเรือนำเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยา หรือการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวของผู้ค้าโดยรอบบริเวณ ในการยัดเยียดขายสินค้า, ขายสินค้าราคาเกินจริง, ข่มขู่นักท่องเที่ยวที่ไม่ซื้อสินค้า, รวมถึงกลุ่มรถแท็กซี่และตุ๊กตุ๊กที่จอดกีดขวางการจราจรทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาพระบรมมหาราชวังได้ลำบาก จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อจัดระเบียบและจับกุมผู้กระทำความผิด
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า การท่องเที่ยวพระบรมมหาราชวังถือเป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย แต่กลับมีกลุ่มคนที่กระทำความผิดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวด้วยการบอกว่า พระบรมมหาราชวังปิด และพาไปเที่ยวที่อื่นหรือพาไปซื้อสินค้าตามร้านต่างๆ ที่ได้มีการตกลงกันไว้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิด ขอเตือนว่า ไม่ควรทำพฤติกรรมเช่นนี้และจะเข้าตรวจสอบร้านที่ร่วมกันหลอกนักนักเที่ยวอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันตุ๊กตุ๊กก็จะต้องไม่มีพฤติกรรมไซด์แขก หรือการหลอกลวงนักท่องเที่ยว หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายจะร่วมกับกรมขนส่งทางบกเพิกถอนใบอนุญาต โดยในครั้งแรกจะพักใบอนุญาต 3 เดือน หากพบอีกครั้งจะเพิกถอนใบอนุญาตขับรถสาธารณะในทันที พร้อมผลักดันออกนอกพื้นที่
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับการจับกุมในวันนี้ มีข้อหาตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 จำนวน 68 ราย, ก่อความเดือดร้อนรำคาญ จำนวน 19 ราย และกลุ่มเสี่ยงกระทำความผิด 52 ราย ซึ่งจะทำการลงประวัติและดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีนี้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 32.5 ล้านคน โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้ 33 - 34 ล้านคน อย่างแน่นอน จึงอยากให้ทุกคนช่วยให้การท่องเที่ยวของไทยดีขึ้น เพื่อเป็นภาพลักษณ์ให้ประเทศ โดยจากนี้ตำรวจจะกวดขันทุกวัน โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์เสื่อมเสีย และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่กระทำความผิดก็จะดำเนินการโดยไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน