xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊งตุ๋นนักท่องเที่ยว พาไปซื้อสินค้าไม่ได้มาตรฐาน หวังฟันค่าคอมมิชชัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตำรวจจับแก๊งตุ๋นนักท่องเที่ยว อ้าง วังและวัดปิด ชวนให้ไปเที่ยวสถานที่ที่แก๊งต้องการ พร้อมหลอกไปซื้อเครื่องประดับ ตัดสูทที่ไม่ได้มาตรฐาน หวังฟันค่าคอมมิชชัน เคยได้สูงสุด 4 - 5 พันบาท

วันนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.15 น. ที่ สน.พระราชวัง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดุสิต สมศักดิ์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ ผกก.สน.พระราชวัง และ นายอธิพงศ์ แสงศิลป์ หัวหน้างานกิจการพิเศษและตรวจสอบกรมการท่องเที่ยว ร่วมกันแถลงผลการจับกุมกลุ่มบุคคลหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ประกอบด้วย นายภาณุพงศ์ กระจกเอี่ยม อายุ 56 ปี นายสุเทพ วงษ์กุหลาบ อายุ 45 ปี ทั้งสองประกอบอาชีพคนขับรถตุ๊กตุ๊ก และ นายธนพล กิตติเจริญสุข อายุ 54 ปี อาชีพมัคคุเทศก์ หลังมีพฤติกรรมหลอกลวงและเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีการร้องเรียนกลุ่มบุคคลหลอกลวงนักท่องเที่ยว ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ โดยหลอกลวงว่า “วัดปิด - วังปิด” เพื่อจะได้ขายสินค้าหรือบริการต่างๆ เช่น แนะนำซื้อเครื่องประดับ แนะนำตัดชุดสูท แนะนำล่องเรือนำเที่ยวตามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะมีราคาสูงหรือคุณภาพไม่ได้มาตรฐานเป็นการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว จึงได้ร่วมกันจับกุมผู้กระทำความผิดในพื้นที่บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง 3 ราย ประกอบด้วย นายภาณุพงศ์ กระจกเอี่ยม เหตุเกิดบริเวณท่าราชวรดิฐ นายธนพล กิตติเจริญสุข มัคคุเทศก์ เหตุเกิดบริเวณสวนนาคราภิรมย์ ประตูช่องกุด และ นายสุเทพ วงษ์กุหลาบ เหตุเกิดบริเวณจุดวัดโพธิ์

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มบุคคลที่หลอกลวงนักท่องเที่ยวมีพฤติกรรมหลอกลวงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญโดยจะหลอกลวงว่า “วัดปิด - วังปิด” เพื่อชักจูงให้นักท่องเที่ยวให้ไปยังสถานที่ต่างๆ ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่านักท่องเที่ยวที่ตกเป็นเหยื่อต้องการซื้อสินค้าหรือบริการในรูปแบบใด โดยจะมีราคาสูงหรือคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน และจะได้รับส่วนต่างจากราคาสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการ จากฐานข้อมูลผู้กระทำผิดทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มีพฤติกรรมหลอกลวงนักท่องเที่ยวบริเวณถนนมหาราช และถนนท้ายวัง จึงได้ออกติดตามจับกุมจนสามารถจับกุมตัวได้ นอกจากนี้ จะขยายผลไปถึงร้านสูท ร้านจิวเวลรี ฯลฯ โดยจะร่วมกับกรมสรรพากร เข้าตรวจสอบร้านที่ขายสินค้าไม่มีคุณภาพ ขายของหลอกลวงนักท่องเที่ยว ซึ่งทราบว่าหลังมีข่าวออกไปบางร้านได้ปิดตัวไปหลายร้าน

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า อยากเตือนผู้ประกอบการที่ขายของไม่มีคุณภาพและหลอกขายของให้นักท่องเที่ยว ให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเสีย อย่างไรก็ตาม จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ สน.ชนะสงคราม สน.พระราชวัง ตร.ท่องเที่ยว ทหาร กรมการท่องเที่ยว กรมสรรพากร ฯลฯ บรูณาการกำลังเริ่มตรวจสอบผู้ประกอบการร้านค้าอย่างเข้มงวด ตั้งแต่บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ท่าเตียน ท่ามหาราช และได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก ในการตรวจตราบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ทั้งรถแท็กซี่ และ รถตุ๊กตุ๊ก โดยได้จัดระเบียบการจราจรให้อยู่รอบนอก ไม่ให้เข้ามาอยู่ในพื้นที่โดยรอบวัดพระแก้ว เพื่อสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้ดีขึ้น ส่วนข้าราชการตำรวจรายใดที่เรียกรับผลประโยชน์ในเรื่องนี้ให้แจ้งเข้ามาได้เลย ตนจะไม่เอาไว้

ด้าน พ.ต.อ.อาชยน กล่าวว่า บริษัททัวร์ที่นำรถนักท่องเที่ยวมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ ได้ที่จอดรถไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตัวเอง เมื่อเจอไกด์ที่ฉวยโอกาสหลอกลวงนักท่องเที่ยวไปในสถานที่อื่น ทั้งนั่งเรือนำเที่ยว ซื้อสินค้าจิวเวลรี ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ระยะเวลาสั้น จึงไม่แจ้งความ แต่จะเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวที่โดนหลอกไปตั้งกระทู้เตือนภัยไว้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่นิ่งดูดาย จะจับถึงต้นตอถ้าร้านไม่ปิดก็จะอยู่ไม่ได้

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าใช้วิธีการดังกล่าวในการหลอกลวงนักท่องเที่ยวจริง และยังรับอีกด้วยว่า เมื่อได้นักท่องเที่ยวจะพาไปซื้อสินค้า ซึ่งจะได้ค่าคอมมิชชัน ต่อครั้งที่ 15 - 20% เคยรับสูงสุด 4 - 5 พันบาท พร้อมทั้งขอโทษคนไทยทั้งประเทศที่ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย และยืนยันด้วยสัจจะของลูกผู้ชาย ว่า หลังจากนี้ จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “ก่อความเดือดร้อนรำคาญ” และจะสืบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีในความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น