รถบรรทุกสิบล้อเบรกไม่อยู่ ชนรถจักรยานยนต์ไปอัดเข้ากับท้ายรถพ่วง 18 ล้อ หัวยุบแบนคาหมวกกันน็อกเสียชีวิตคาที่ บนถนนรถรางเก่าเยื้องศาลเจ้าพ่อทัพสำโรง
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 16 มิถุนายน 2561 พ.ต.ต.ธนันท์ชัย สืบศรีขจรรัฐ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกสิบล้อชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตที่บริเวณถนนรถรางเก่า เยื้องศาลเจ้าพ่อทัพสำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน 70-0656 สุราษฎร์ธานี ที่กระบะท้ายบรรทุกเหล็กมาเต็มคัน จอดขวางอยู่กลางถนน ที่บริเวณหน้ารถพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีแดงดำ ทะเบียน 1 กฎ 6834 ประจวบคีรีขันธ์ ที่เบาะนั่งมีทั้งพัดลม กระเป๋าเสื้อผ้า และข้าวของอื่น มัดมาเต็มท้ายรถ ล้มคว่ำอยู่ในสภาพบิดเบี้ยวทั้งคัน ใกล้กันบริเวณล้อหน้าข้างขวาของรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวได้พบร่างของชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 - 40 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเสียชีวิต ที่ศีรษะยังสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำที่อยู่ในสภาพหมวกกันน็อกแตกและยุบ และที่บริเวณใบหน้าของชายคนดังกล่าวยุบจนใบหน้าแบนจำสภาพเดิมไม่ได้ ตรวจสอบภายในตัวไม่พบเอกสารแสดงว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน พบเพียงเอกสารใต้เบาะรถเป็นสำเนาเอกสารบัตรประชาชนระบุชื่อนายสัญญา ยุวบุตร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 9 ต.พอกน้อย อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร และทะเบียนบ้านอีก 1 เล่ม ที่วางปนอยู่กับกระปุกยาจำนวนมาก ซุกอยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว
จากการสอบสวน นายฉลวย อุทัยแจ่มสำราญ อายุ 66 ปี โชเฟอร์รถบรรทุกสิบล้อ ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวจากจังหวัดระยอง เพื่อที่จะเอาเหล็กไปส่งที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยขับมาเส้นถนนบางนา-ตราด และเลี้ยวเข้าถนนรถรางเก่า ซึ่งขณะนั้นการจราจรยังหนาแน่น ก่อนถึงที่เกิดเหตุ ผู้ตายซึ่งนั่งคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์ ที่จอดต่อท้ายรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ ที่จอดติดไฟแดงอยู่ ซึ่งตนก็เห็นมาแต่ไกล และพยายามเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็ว แต่เบรกไม่อยู่ ตนจึงได้เปิดกระจกและตะโกนออกมานอกรถว่าเบรกไม่อยู่ โดยตะโกนอยู่หลายครั้งก่อนที่รถจะพุ่งมาชนรถของผู้ตายอัดเข้ากับท้ายรถพ่วง 18 ล้อ ที่จอดอยู่ด้านหน้า หลังเกิดเหตุรถเทรลเลอร์ 18 ล้อคันดังกล่าวได้ขับออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนจึงรีบลงมาดูเห็นผู้ตายนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่กับพื้นถนน ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขี่มาล้มคว่ำอยู่หน้ารถของตนในสภาพบิดเบี้ยว ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวโชเฟอร์บรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวเอาไว้ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาว่า ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินเสียหาย และจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงเป็นหลักฐานเพื่อติดตามคนขับรถเทรลเลอร์ 18 ล้อคันดังกล่าว มาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป